เด็กนักเรียนหญิงโคราชเคราะห์ร้าย ถูกพลุงานศพตกใส่ศีรษะสาหัส ล่าสุดอาการยังโคม่า
นายนิรุตติ อายุ 41 ปี พ่อเด็กหญิงณัฐชา ได้เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้น้องมิลค์ยังโคม่าอาการหนักมาก ใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ซึ่งวันเกิดเหตุ ตอนเช้าน้องมิลค์ปั่นจักรยานไปโรงเรียน แต่ตอนเย็นเดินกลับ ก็คาดว่า น่าจะลืมจึงเดินกลับกับเพื่อน โดยแพทย์ที่เฝ้าดูอาการบอกมาตรงๆ ว่า น้องมิลค์ไม่น่าจะอยู่ได้นาน แต่ตนเองยังมีความหวังอยู่ เพราะน้องมิลค์เป็นลูกคนเดียว เป็นคนร่าเริง สนุก ชอบคุย ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุใดๆ และเช้าในวันเกิดเหตุ ตนเองและภรรยาก็รีบไปทำงาน ไม่ทันได้คุยอะไรกันมาก มารู้อีกทีว่าลูกประสบอุบัติเหตุก็ตอนที่ภรรยาโทรไปบอกในช่วงเย็น ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีความให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนเรื่องอื่นๆค่อยพูดคุยกันอีกที
ด้านนางจิตใส อายุ 74 ปี ป้าของเด็กหญิงณัฐชา ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าเวลาประมาณ 16.00 น. เด็กนักเรียนชั้น ป.1-ป.3 จะเลิกเรียนก่อน และทยอยกันกลับบ้าน ซึ่งในช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังโครม ผู้ปกครองที่มารอรับลูกหลานต่างพากันตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตนเองก็รีบวิ่งข้ามถนนไปดู ก็พบว่า เป็นหลานของตนเองที่ประสบเหตุ มีคนนำร่มมากางบังแดดให้เพราะน้องมิลค์นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นถนน ตนเองพยายามร้องเรียกหลานตลอดเวลา และสังเกตเห็นว่า มีชิ้นส่วนของพลุทิ่มไปที่กลางศีรษะของหลาน ส่วนตำรวจก็เดินไปบริเวณใกล้เคียงเก็บซากพลุที่หักใส่ถุงไว้เป็นหลักฐาน รอรถพยาบาลนำหลานไปส่งรักษา แต่ก็นำไปไม่ได้เพราะไม่มีเครื่องช่วยหายใจ รอจนคันที่ 3 มาถึง จึงสามารถนำหลานส่งโรงพยาบาลได้ และเมื่อมารู้ว่าอาการสาหัสมาก ก็รู้สึกเป็นห่วง ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับลูกหลานของตนเอง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บริเวณเมรุเผาศพวัดหน้าพระธาตุ พบว่า ที่ตั้งของเมรุเผาศพในหมู่บ้าน ห่างจากตัวโรงเรียนที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตรเท่านั้น และบริเวณด้านหลังเมรุ พบร่องรอยการจุดพลุงานศพทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ปัจจุบันชาวบ้านมักจุดพลุในงานศพโดยใช้พลุแบบใหม่ที่มีเสียงดังและแตกกระจายในท้องฟ้าซึ่งพลุแบบนี้จะไม่ค่อยมีเศษพลุตกลงมาด้านล่าง แต่วันเกิดเหตุ คนจุดพลุได้ใช้พลุตะไลซึ่งทำจากไม้ จึงทำให้มีเศษของไม้ร่วงหล่นลงมายังพื้นด้านล่าง
ส่วนด้านคดีความ พันตำรวจเอก ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวชาย 2 คนที่จุดพลุตะไลในงานศพขณะเกิดเหตุ มาสอบปากคำแล้ว
โดยทั้งสองคนให้การยอมรับว่า เป็นผู้จุดพลุตะไลจริง ซึ่งก่อนจุดพลุตะไลทางคนจุดอ้างว่า ได้หันพลุตะไลไปทางทุ่งนาซึ่งไม่มีผู้คนแล้ว แต่ช่วงเกิดเหตุมีลมพัดแรง คาดว่า แรงลมได้พัดพลุตะ
ไลที่จุดหล่นลงมาในที่ชุมชน จนเป็นเหตุทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับชายสองคนที่จุดพลุในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news