คนขอนแก่นงง เจ้าหน้าที่นำถุงยางมะตอยมาปิดกั้นช่องท่อระบายน้ำ เพื่อให้รถวิ่งผ่านไปไปมาสะดวก ผ่านไปยางมะตอยหลุดหายลงท่อหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากเพจ “ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” ซึ่งได้เปิดเผยภาพการซ่อมถนน ของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ด้วยการนำ ถุงยางมะตอย มาปิดกั้นช่องท่อระบายน้ำเพื่อให้ถนนเป็นแนวเดียวกัน และภาพปัจจุบันที่ไม่พบร่องรอยของถุงยางมะตอยเหลืออยู่ พร้อมข้อความระบุว่า ”ซ่อมถนนจะยากอะไร เอาถุงยางมะตอยวางๆไว้ก็เสร็จแล้ว #ภาพตอนซ่อมและปัจจุบัน วงเวียนคำไฮ บ้านเป็ด“
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณวงเวียนบ้านคำไฮ ถ.ศรีจันทร์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบว่าตรงช่องตะแกรงระบายน้ำข้างถนนบริเวณดังกล่าว ที่มีจำนวน 5 ช่อง บางตะแกรงท่อระบายน้ำยังมีร่องรอยยางมะตอยเหลืออยู่ตรงตะแกรงระบายน้ำ บางตะแกรงก็ไม่พบถุงยางมะตอยที่ปิดกั้นตะแกรงท่อระบายน้ำเหลืออยู่
เนื่องจากรถยนต์วิ่งผ่านไปมาทำให้หลุดลงไปในท่อระบายน้ำทั้งหมด เหลือเพียงเศษถุง พลาสติกที่ห่อหุ้ม และเศษยางมะตอยเพียงเล็กน้อยที่ติดอยู่ข้างตะแกรงท่อระบายน้ำเท่านั้น
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น ทราบว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ นำถุงยางมะตอย มาวางเพื่อปิดกั้นช่องท่อระบายน้ำนั้น เนื่องจาก ช่องท่อระบายน้ำอยู่ลึกกว่าพื้นถนนเวลารถวิ่งผ่านไปมา มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่จึงนำเอาถุงยางมะตอยมาวางเป็นชั้นๆ เพื่อให้ อยู่ในระดับเดียวกันกับพื้นถนน จะได้ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ ขณะนี้ ถุงยางมะตอย ได้หลุดหายไปหมด จนเป็นสภาพอย่างที่เห็น
น.ส.ภาคินี จันทร์สว่าง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/9 ถ.ศรีจันทร์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าทางเจ้าหน้าที่ นำถุงยางมะตอยมาวางปิดท่อไว้ตอนไหน แต่ที่เห็นถุงยางมะตอยเริ่มเปื่อยและหลุดลงไปในท่อหมดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่ยังมีถุงยางมะตอยปิดท่ออยู่ ก็จะมีน้ำท่วมขังเมื่อเวลาฝนตกตกลงมา ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดจากท่ออยู่ต่ำกว่าระดับถนนนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะบริเวณขอบท่อนั้นลึก แต่ตนก็ไม่เคยพบเห็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
