เปิดเทอม โรคมือเท้าปากระบาด 4 จังหวัดอีสานใต้ ปีนี้พบป่วยแล้ว 1,552 ราย ควบคุมโรคที่ 9 เตือนทุกสถานศึกษาเร่งดำเนินมาตรการป้องกัน
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยว่า กลุ่มระบาดวิทยาและตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา (สคร.9) ได้รายงานสถานการณ์การระบาดของโรคมือเท้าปากในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 24 มิถุนายน 2567 มีผู้ป่วยสะสม 1,552 รายแล้ว แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต เมื่อยกเป็นรายจังหวัด
พบว่า จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยสะสมมากสุด 812 ราย รองลงมาคือ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วยสะสม 332 ราย , จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วยสะสม 309 ราย และ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยสะสม 99 ราย โดยกลุ่มอายุที่ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 3 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 1 ปี และกลุ่มอายุ 2 ปี ตามลำดับ
ซึ่งโรคนี้เกิดได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงเปิดเทอม เด็กจะมีกิจกรรมรวมกลุ่มกันมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝน สภาพอากาศจะชื้นแฉะ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคมือ เท้า ปาก ได้ง่าย จึงมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กที่มีเด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก จะเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคติดต่อกัน โดยการสัมผัสของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากแผลตุ่มพอง อุจจาระของผู้ป่วย การไอ จาม หรือหายใจรดกัน
ซึ่งอาการของโรคมือ เท้า ปาก เริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน จะมีอาการเจ็บปาก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า
ตุ่มแผลในปาก เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น และก้น ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ดังนั้น โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และผู้ปกครอง จึงต้องเร่งดำเนินมาตรการป้องกันโรค มือ เท้า ปาก โดยขอให้ผู้ปกครองคัดกรองอาการของเด็กก่อนไปเรียน หากเด็กไม่สบายหรือมีไข้ ร่วมกับมีแผลในปาก ซึ่งอาจมีหรือไม่มีตุ่มน้ำที่มือหรือเท้าก็ได้ ควรพาไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และให้พักอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews