นักเรียนโรงเรียนชื่อดังเมืองพิษณุโลกมีเรื่องทะเลาะกันมานาน นัดกันมาเคลียร์ แต่อีกฝั่งกลับพาพวกนอกสถาบันรุมทำร้ายใช้อาวุธปืนยิงถูกหัวเจ็บสาหัส
ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนไล่ยิงกัน บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลกริมถนนเส้นบายพาสสายเลี่ยงเมืองแยกเอ็กซ์เรย์มุ่งหน้าแยกบ้านกร่าง พื้นที่หมู่ 8 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบกลุ่มนักเรียนชายหญิงจำนวนมาก อยู่ในอาการแตกตื่นตกใจยืนมุงดูเด็กนักเรียนชาย ชั้น ม.5/2 ที่ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ก่อนให้การช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถาม รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง เล่าว่าเมื่อวานที่ผ่านมา ทราบข่าวว่านักเรียนชาย 2 กลุ่ม มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันจึงเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยตกลงทั้งสองฝ่ายว่าให้เลิกแล้วต่อกันจนเคลียร์กันรู้เรื่อง แต่สุดท้ายเรื่องบานปลายไม่จบ โดยเด็กนักเรียนเตรียมไปก่อเหตุทะเลาะกันต่อหลังเลิกเรียน อาจารย์ก็ได้ติดตามไปให้แยกย้ายกลับบ้าน แต่เหตุการณ์นี้มีเด็กข้างนอกซึ่งไม่ใช่นักเรียนที่เรียนโรงเรียนแห่งนี้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก่อนจะก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มนักเรียนจนกระสุนพลาดไปถูกศีรษะนักเรียนชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้านกลุ่มเพื่อนของนักเรียนผู้รับบาดเจ็บ ยอมรับว่าน้องปลื้ม(นามสมมุติ) มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อน นักเรียนชาย ม.5/10 คนหนึ่ง เคยชกต่อยกันมาหลายครั้ง กระทั่งเช้านี้ฝ่ายปกครองได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไปตกลงกัน เรื่องเหมือนจะจบ แต่กลับมีการนัดเคลียร์เปิดอกคุยกัน ซึ่งทั้ง 3 ฝ่ายตกลงกันว่าจะไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่มีอาวุธ พอถึงเวลานัดปรากฏว่าคู่กรณีกลับขับรถพากลุ่มคนนอกโรงเรียนมาด้วยนับ 10 คน และรุมทำร้ายร่างกายน้องปลื้มบนศาลาหน้าโรงเรียน โดยไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะเห็นกลุ่มที่ทำร้ายมีอาวุธมีดและปืน ต่อมามีอาจารย์มาเห็นเหตุการณ์ได้จอดรถแล้วรีบลงไปห้ามแต่ยังไม่ทันถึง คนในกลุ่มนั้นใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ทั้งนี้ ตำรวจชุดสืบสวนเร่งแกะรอยคนร้าย ทราบว่าวัยรุ่นที่ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติด ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news