ศรีสะเกษ รวบชาวกัมพูชา อยู่ไทยเกินกำหนด

ศรีสะเกษ รวบชาวกัมพูชา อยู่ไทยเกินกำหนด พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการเฝ้าระวังปัญหาชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

 

 

 

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4 โดย พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ, พ.ต.ท.นที ทองสุกแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ, พ.ต.ท.หญิง ชัญญา พรหมวารี รอง ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ ดำเนินการควบคุมตัวและดำเนินคดี นาง Srorn Seng อายุ 53 ปี

 

 

สัญชาติกัมพูชา ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” เป็นเวลา 163 วัน โดย พ.ต.ท.หญิงมณีพร บุญเลี้ยง สว.ตม.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ (ส่วนแยก) ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

 

 

 

ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า นาง Srorn Seng อายุ 53 ปี สัญชาติกัมพูชา เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 ทางจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับการตรวจลงตราประเภทแรงงาน 3 สัญชาติ (NON-LA) อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 22 มกราคม 2562

 

 

และยื่นขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นการอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เกินกำหนดระยะเวลาอนุญาตเป็นเวลา 163 วัน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายให้ทราบ พร้อมจับกุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การควบคุมตัวดำเนินคดีครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามมาตรการระดมกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต หรือ Overstay เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการอยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัยและเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นที่จะส่งผลต่อความเดือดร้อนและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews