Home
|
ภูมิภาค

ร้านค้าในโคราช เมินลงทะเบียนร่วมโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต

Featured Image

 

 

 

 

ร้านค้าในโคราช เมินลงทะเบียนร่วมโครงการเงินดิจิทัล10,000 บาท ระบุเงื่อนไขยุ่งยาก ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นเศรษฐกิจ แนะไปแก้ปัญหาไฟฟ้าและน้ำมันแพงจะตรงจุดกว่า

 

 

 

 

ภายหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดให้ประชาชน และร้านค้าต่างๆ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท โดยในส่วนของร้านค้า มีไทม์ไลน์เปิดให้ลงทะเบียน 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ลงทะเบียนกลุ่มร้านค้าปลีก-ค้าส่ง, ช่วงเดือนกันยายน ลงทะเบียนกลุ่มร้านค้า Supplier และช่วงเดือนตุลาคม ลงทะเบียนร้านค้าทั่วไป ปิดการลงทะเบียนร้านค้า วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นั้น

 

ล่าสุด วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจร้านค้าขนาดเล็ก และร้านค้าส่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าร้านค้าส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบ จึงทำให้หลายร้านเกิดความลังเลและไม่ให้ความสนใจที่จะร่วมลงทะเบียนร้านค้ากับโครงการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทนัก

 

โดยนายประเทือง พะยอมใหม่ เจ้าของร้านร้านขายของชำ ในชุมชนพื้นที่ตำบลโคกกรวด อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา บอกว่า สำหรับโครงการเงินดิจิตอล 10,000 บาท ในส่วนของร้านค้า ตนคิดว่าอาจจะไม่ลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นร้านค้าในโครงการเนื่องจากตนคิดว่าเงื่อนไขไม่สะดวกและยุ่งยากสำหรับร้านค้าขนาดเล็ก เนื่องจากร้านค้าของตนนั้นจำเป็นจะต้องใช้เงินหมุนอยู่ทุกวันไม่สามารถจะนำเงินจากดิจิตอลวอลเล็ทของลูกค้า ไปเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที เพราะ

 

นอกจากที่จะต้องซื้อสินค้าทุกวันแล้ว ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวยังมีอีกหลายอย่าง ทั้งค่ากินอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ อีกทั้งไม่แน่ใจว่าร้านขายของส่งร้านประจำที่ซื้อของนั้นจะเข้าร่วมโครงการด้วยหรือเปล่า เพราะในพื้นที่ร้านขายของส่งนั้นมีน้อย ถ้าหากต้องเดินทางไปใช้เงินดิจิตอลวอลเล็ทในตัวเมือง ก็ค่อนข้างไกล
ต้องเปลืองค่าน้ำมันไปอีก

 

ยิ่งกว่านั้นในพื้นที่ยังมีร้านสะดวกซื้อซึ่งยังไม่รู้ว่าได้เข้าร่วมโครงการหรือไม่ ซึ่งถ้าร่วมร้านค้าขนาดย่อยของตนนั้นก็จะถูกแบ่งลูกค้าไปอีก หากเปรียบเทียบกับโครงการรัฐบาลที่ผ่านมา อย่างโครงการคนละครึ่งนั้น ตนคิดว่าโครงการคนละครึ่งดีกว่า สะดวกกว่า สามารถขึ้นเงินสดได้ทันที เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสามารถกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนในพื้นที่ได้อย่างจริงจัง

 

ด้านนายชาญ ประสิทธิ์พรกุล เจ้าของร้านทวีผล ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกและค้าส่งชุดนักเรียนรายใหญ่ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับโครงการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท ที่รัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้นั้น ตนเองมองว่า ยังไม่มีความชัดเจนในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายของประชาชนว่าจะให้ใช้อย่างไรบ้าง และการเบิกออกมาเป็นเงินของร้านค้าที่รับเงินดิจิตอลมา ก็ค่อนข้างยุ่งยาก

 

เนื่องจากบางร้านซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินมาหมุนเวียนในร้าน ถ้าเกิดว่าการเบิกจ่ายเงินล่าช้าหลายเดือน ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำมาค้าขายได้ ซึ่งเรื่องข้อมูลเหล่านี้ไม่มีหน่วยงานใดของรัฐ มาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างละเอียดเลย ต้องไปหาข้อมูลตามข่าวสารที่กระจัดกระจายอยู่ตามโซเชียลและสื่อต่างๆ เอาเอง

 

ตอนนี้ เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจถือว่ามีความสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้นการอัดฉีดเงินใดๆ ลงมาก็ควรที่จะให้มีสภาพคล่อง ไม่ควรที่จะมีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยาก ถ้าเทียบกับโครงการก่อนๆ เช่นโครงการคนละครึ่ง ประชาชนสามารถนำเงินมาใช้จ่ายซื้อของได้เลยทันที และทางร้านก็สามารถนำเงินไปหมุนต่อได้เลยทันทีเช่นกัน

 

ซึ่งโครงการดังกล่าวนั้นถือว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีมาก ต่างจากโครงการเงินดิจิตอล 10,000 บาท ที่ขณะนี้ยังไม่รู้ว่า จะสามารถใช้จ่ายอย่างไรได้บ้าง จึงทำให้ร้านค้าต่างๆ ไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก อย่างเช่นร้านของตน ตอนนี้ก็คงจะไม่อยากเข้าร่วมโครงการนี้อย่างแน่นอน สิ่งที่ประชาชนอยากได้มากตอนนี้ก็คืออยากให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการลดค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลง

 

โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมัน ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้อยากจะฝากความหวังไว้กับรัฐบาลเท่าใดนัก เพราะว่าตอนนี้ดูข่าวการเมืองทีไรเครียดทุกที เนื่องจากทุกพรรคการเมืองมัวแต่เล่นการเมืองอย่างเดียวไม่ได้สนใจแก้ปัญหาการบ้านหรือปัญหาประชาชนอย่างแท้จริงเลย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube