รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน เก็บตัวอย่างในเรือนจำนราธิวาสแล้ว ขณะรองผู้ว่าประชุมจนท.กว่า 200 คน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไววัสโควิด-19 ที่ เรือนจำนราธิวาส ล่าสุดในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน จำนวน 1 คัน เดินทางเข้าไปทำการเก็บ
ตัวอย่างไวรัสโควิด-19 กับผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่เรือนจำที่เหลือ เพื่อที่จะทำการแยกกลุ่มบุคคลที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกัน ส่วนบรรยากาศภายในเรือนจำนราธิวาสได้มีการจัดเตรียม
สถานที่ซึ่งเป็นแดน 6 เพื่อเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสนาม โดยไม่อนุญาตให้มีบุคคลภายในออกและบุคคลภายในเข้าโดยเด็ดขาด
ส่วนกรณีบุคคลจาก 15 หน่วยงานของ จ.นราธิวาสที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมแสดงผลงานต่อต้านยาเสพติดที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีจำนวน 200 คน ได้เดินทาง
กลับมารายงานตัวและคัดกรองกับเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ใช้ อาคารของสำนักงานกการท่องเที่ยวและกีฬา จ.นราธิวาส เป็นสถานที่คัดกรอง โดยในเบื้องต้นทุกคนไม่มีอาการ อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 เมษายน 2564 นี้ เจ้าหน้าที่จะทำการเก็บตัวอย่าง หรือ Swab อย่างละเอียดอีกครั้ง
ทางด้านนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 200 คน ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลาง จ.นราธิวาสตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น.ของวันนี้โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเป็นการประชุมเพื่อวางมาตรการในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มีความกังวลเกิดขึ้นว่าอาจจะมีการแพร่ระบาดอย่างหนัก ทั้งนี้ เนื่องมาจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 90 นับถือศาสานาอิสลาม รวมทั้งเครือญาติที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียจะทะลักข้ามแดนมายังฝั่งไทยในช่วงเดือนถือศีลอดหรือเดือนรอมฎอน ซึ่งจะมีขึ้นประมาณวันที่ 12 หรือ 13 เมษายน 2564 ที่จะถึงนี้ ซึ่งนายไพโรจน์ รอง ผวจ.นราธิวาสได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการจัดเตรียมหาสถานที่กักตัวในแต่ละพื้นที่อำเภอ ส่วนกรณีบุคคลต่างด้าว ซึ่งอาจจะใช้เรือนจำนราธิวาสในการควบคุมตัว เพื่อรอดำเนินคดีและผลักดัน ซึ่งเชื่อว่าหากมีมาตรการรับมือก็จะทำให้มีการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
