Home
|
ภูมิภาค

แชร์แครอท ผู้เสียหายแฉเพิ่มเสียหายกว่า 5 พันล้าน

Featured Image

 

 

 

 

คืบแชร์แครอท ผู้เสียหายแฉเพิ่มทั่วประเทศเสียหายกว่า5พันล้าน เชื่อพระที่โดนหลอกมาจากเจ้าของโบรคเกอร์ มีความคุ้นเคยกับบุคลากรในมหาวิทยาลัยสงฆ์

 

 

 

 

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” โพสต์ภาพพระสงฆ์ระบุว่าถูกหลอกลงทุนเทรด พร้อมข้อความระบุว่า “บ้านแชร์น้องแครอท…ล้มแล้ว !! แชร์ลูกโซ่ของสงฆ์อีสาน…ผู้เสียหายส่วนใหญ่ คือพระสงฆ์เกือบทั้งหมด

 

หลังหลอกพระสงฆ์ที่อยู่ในภาคอีสานเข้าร่วมลงทุนเทรดกับบริษัทขายฝันอ้างไม่เกิน 5 ปี ได้บ้าน ได้รถตอนนี้มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 1,000 ล้านบาท.” ซึ่งภายในภาพยังมีป้ายที่ระบุสถานที่ว่ามีการจัดโครงการปฏิบัติธรรมภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่จังหวัดขอนแก่นด้วย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

นายสุพจน์ ดำรงต์เลิศตระกูล ชาว จ.ขอนแก่นผู้แทนผู้เสียหาย ได้นำหลักฐานเป็นคลิปเจ้าของโบรคเกอร์ WCF ที่พระสงฆ์ถูกหลอกร่วมลงทุนเทรดตามที่มีการเปิดเผยเรื่องราวในโซเชียลมีเดียมาแสดงต่อสื่อมวลชนหลังพบความเสียหายเกิดขึ้นภาพรวมทั้งประเทศ

 

นายสุพจน์ กล่าวว่า เหตุแชร์แครอทล้มนั้น ผู้เสียหายไม่ใช่มีแต่เฉพาะพระสงฆ์ ซึ่งจากการพูดคุยพบว่ามีผู้เสียหายจากหลายจังหวัด ซึ่ง เป็นเรื่องของการเทรดค่าเงิน โดยได้ส่งข้อมูลแจ้งความกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผวจ.ขอนแก่น และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไปทั้งหมดแล้ว กระทั่งมีการตรวจสอบพบว่าเป็นการหลอกลวงเทรดฟอเรกซ์ที่มีการตรวจสอบเอาผิดมาก่อนหน้านี้

 

โดยผู้เสียหายหลายคนมาร้องเรียนให้ช่วยเรื่องทางกฎหมายกับเราเพราะเรามีสำนักงานด้านฝ่ายกฎหมายคอยช่วยเหลือประชาชนด้วย จากการหาข้อมูลหลักๆทราบว่า ขอนแก่นนั้นเป็นแหล่งที่มาของ WCF มีสำนักงานตั้งอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง (บ้านสวนชมดาว) ในพื้นที่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ปัจจุบันทราบว่าขายให้กับเจ้าของคนใหม่ไปแล้ว

 

โดยสร้างแพลตฟอร์มปลอม ว่ามีการเทรด Forex จริงในตลาดเทรดในการเข้าลงทุน จะมีการสร้างเครือข่ายการระดมทุนให้คนเข้า Copy Trade , Trade เองในตลาด แต่เป็นแพลตฟอร์ม Forex ปลอมไม่มีการเทรดจริง ใช้การระดมคนเข้าเทรดโดยมีโบรคเกอร์ ชื่อ WCF หรือชื่อเต็มคือ Worldclass Financial Intelligence เป็นโบรคที่แจ้งว่า สามารถรับการเทรดเงินสกุล ดอลล่าได้ แต่ความเป็นจริงนั้น

 

ไม่ได้รับการรับรองให้เทรดได้ โดยแต่ละโบรกเกอร์จะเชื่อมกับต่างประเทศ และกฎหมายของประเทศไทยมีการแจ้งเตือนมาแล้วจะไม่มีที่ไหนเทรดได้นอกจากกลุ่มธนาคาร กลุ่มตลาดหลักทรัพย์หรือกลุ่มไฟแนนซ์ต่างๆ นอกนั้นไม่สามารถทำได้ ซึ่งแกนนำและวิทยายกรบางคนที่รู้ว่ามีความไม่ชอบมาพากลได้ถอนตัวออกมาและมาให้ข้อมูลกับเราพร้อมหลักฐานที่เป็นความจริง

 

“ในช่วงแรกมีผู้เสียหายมาปรึกษากับผม 3 คน โดยได้มีการเข้าแจ้งความจนทาง ดร.ภานุวัชร เจ้าของ WCF โทรศัพท์ติดต่อมาหาตนเอง ขอรายชื่อคนที่ไปแจ้งความเพื่อจะขอจ่ายเงินคืน และก็ได้เงินคืนทันทีทั้งหมด ทั้งพยาบาล ทั้งอาจารย์ รายละ 300,000-900,000 บาท แต่เป็นการจ่าเงินคืนแบบโอนให้ผ่านบุคคล ไม่ใช่มาจากระบบการเทรด

 

ซึ่งความเป็นจริงระบบนี้จะต้องมีการจ่ายมาจากต่างประเทศ หลังจากนั้นผู้เสียหายหลายคนกว่า 100 รายเมื่อทราบว่าได้เงินคืนก็พากันเข้ามาพบตนเองให้ช่วยประสานงานทางกฎหมายให้ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ทำได้เพียงประสานงานต่อไปให้ทาง DSI สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กระทั่งมีข่าวแชร์แครอทที่ปรากฎในสื่อต่างๆ

 

แต่จริงๆแล้วไม่ใช่การเล่นแชร์แต่เป็นการเทรดลงทุนที่หลอกลวงขึ้น โดยเจ้าของโบรกเกอร์คือ ดร.ภานุวัชร ซึ่งดร.ภานุวัชรนั้น เคยบวชเรียนมาก่อน จะมีการอบรมที่มจร.หลายๆจังหวัดในภาคอีสาน และมีการจัดกิจกรรมโครงการคล้ายกับอคาเดมี่พระสงฆ์มาอบรมหลายรูป และจะเชิญชวนให้อยากลงทุนเทรดให้ได้รับผลกำไร

 

นายสุพจน์ กล่าวต่ออีกว่า การที่ให้พระมาอบรมหรือมีโครงการปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ข้อมูลที่ตนเองมีคือแผนการในการรวมพระสงฆ์มารับข้อมูลจูงใจให้ร่วมลงทุนเทรด เพราะทุกๆการจัดโครงการหรือการอบรมมักจะได้เงินจากพระมาลงทุนตลอด และไม่ใช่เฉพาะพระ

 

แต่มีบุคคลอื่นๆในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นข้าราชการครูเกษียณระดับผู้อำนวยการ บางรายมีนามสกุลดังระดับประเทศ แต่บางรายไม่กล้าเปิดเผยไม่กล้าเอาเรื่องต่อเพราะกลัวครอบครัวรู้ว่าเอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนต่อ หมดไปเกือบล้านก็มี

 

และจากข้อมูลการตรวจสอบของทาง DSI พบว่ามีผู้เสียหายที่มียูเซอร์ในระบบรวมๆแล้วกว่า 2 พันราย และแต่ละรายจะมีการลงทุนคนละ 1 พรอต โดย 1 พอร์ตเท่ากับ 10,000 เหรียญดอลล่าสหรัฐ หรือเป็นเงินไทยจำนวน 316,000 บาท มูลค่าความเสียหายรวมแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube