เกิดเหตุพลุยักษ์ใช้จุดงานฉลองบุญกฐินในตำบลเจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 7 ราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบและหาสาเหตุ
ร.ต.อ.บัญชา นาชัยฤทธิ์ ร้อยเวร สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุพลุระเบิด ที่บ้านเก่าน้อย หมู่ 3 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาและ พ.ต.อ.ธีรวุฒิ วงศาอ้วน ผกก.สภ.กมลาไสย พร้อมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รอง ผกก.สอบสวน สภ.กมลาไสย เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองผู้นำชุมชน แพทย์ รพ.กมลาไสย
โดยที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณถนนรอบหนองน้ำสาธารณะปราการ ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะหมู่บ้านเก่าน้อย พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย สภาพถูกแรงระเบิดของพลุ อวัยวะบางส่วนและเศษเนื้อบางส่วนกระเด็นกระจัดกระจายไปคนละทาง ทราบชื่อต่อมาคือนายสถิต อายุ 75 ปี ชาวบ้านแจ้งจม หมู่ 7 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และนายเอกสิทธิ์ อายุ 34 ปี ชาวบ้านโนนรัง ต.เจ่าทา อ.กมลาไสย สภาพศพทั้ง 2 ถูกแรงระเบิดของพลุ กระเด็นไปคนละทาง ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุกว่า 20 เมตร ส่วนผู้บาดเจ็บรวม 7 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกมลาไสยไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างถูกแรงระเบิดพังเสียหายจอดอยู่ 1 คัน และบริเวณที่เกิดเหตุพบข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ รองเท้า เสื้อผ้า กระเด็นกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ และ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ได้พากันนำพลุที่ประกอบขึ้น ขนาดความสูง 170 ซม. และเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว มาจัดเตรียมเพื่อที่จะจุดในงานฉลองบุญกฐิน ของหมู่บ้าน ซึ่งขณะนั้นกำลังจะมีการแสดงมหรสพที่วัด ห่างจากบริเวณจุดพลุประมาณ 1 กม. แต่ในระหว่างที่กำลังจัดเตรียม พลุกลับระเบิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากชันสูตรศพผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ถึงสาเหตุการระเบิด และเสียชีวิตต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews