“โสภณ” ชี้ รวมพลังแก้ยาเสพติดแบบบูรณาการได้ผลจริง
“โสภณ”ชี้ รวมพลังแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการได้ผลจริง ดึงผู้เสพคืนครอบครัว สังคมได้เกินครึ่ง “มูลนิธิลูกเติ้ง” มอบเงิน 9 แสนให้ รพ.ปรับปรุงอาคาร แยกผู้ป่วยทั่วไปออกจากผู้ป่วยยาเสพติด และหน่วยงานปราบมยาเสพติด 1.2 แสน
นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และประธานชมรมคนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน พร้อมด้วยนายศักดิ์ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์, นายรัฐพล ซารัมย์ ประธานมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์(ลูกเติ้ง) ร่วมกับนายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สาธารณสุข, ผอ.โรงพยาบาล ทั้ง 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ลำปลายมาศ คูเมือง พุทไธสง หนองหงส์ นาโพธิ์ และอ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้แถลงความก้าวหน้าโครงการ “รวมพลังรักศรัทธาแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” ในพื้นที่ 6 อำเภอ ณ ห้องประชุมชั้น 3 โรงพยาบาลคูเมือง อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
โดยโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายหลายภาคส่วน อาทิ มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการด้านต่างๆ ส่วนนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้นำชุมชน และภาคเอกชน ก็ร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนที่มีความรุนแรง โดยเฉพาะปัญหาผู้เสพยาบ้าที่นำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม การลักทรัพย์ ความผิดปกติทางจิต และปัญหาสังคมอื่นๆ
ผลการดำเนินโครงการนำร่อง ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2567 ได้เริ่มดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ตัดวงจรผู้ค้าเพื่อลดจำนวนผู้เสพรายใหม่ บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพรายเก่า โดยมีการดำเนินงานดังนี้ฝ่ายปกครองและตำรวจ ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้ค้ายาเสพติด จับกุม 40 คดี พบผู้ค้า 63 ราย ยึดยาบ้า 438,496 เม็ด และยาไอซ์ 0.3 กรัม ฝ่ายปกครองร่วมกับสาธารณสุขค้นหาและคัดกรองผู้เสพในพื้นที่ 22 หมู่บ้านนำร่องใน 6 อำเภอ
โดยมุ่งเน้นกลุ่มประชากรอายุ 13-60 ปี จากจำนวนผู้เข้ารับการคัดกรองทั้งหมด 6,300 คน พบผู้เสพยาเสพติด 501 คน คิดเป็น 8% ของกลุ่มประชากรเป้าหมาย ทั้งนี้ หากดำเนินการคัดกรองในประชากรทั้งหมด (ประมาณ 150,000 คน)คาดว่าจะพบผู้เสพสูงถึง 12,000 คน ซึ่งเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขในปัจจุบันจะรองรับได้
ทั้งนี้ หากดำเนินการคัดกรองในประชากรทั้งหมด (ประมาณ 150,000 คน) คาดว่าจะพบผู้เสพสูงถึง 12,000 คน ซึ่งเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขในปัจจุบันจะรองรับได้จึงต้องบูรณาการกับเครือข่ายชุมชนและภาคเอกชนอย่างเข้มแข็ง ถึงจะสามารถบำบัดรักษาผู้เสพยาได้อย่างมีคุณภาพ
สำหรับแนวทางการแก้ไขดูแลบำบัดรักษา มีดังนั้น 1.กลุ่มผู้เสพที่ไม่มีอาการทางจิต ดูแลโดยชุมชนล้อมรักษ์ (Community-Based Treatment: CBTx) ฝ่ายปกครองร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลติดตามและบำบัดในระยะเวลา 16 สัปดาห์ กรณีที่ผู้เสพไม่มารายงานตัวหรือตรวจพบปัสสาวะเป็นบวก จะถูกส่งต่อไปยังศูนย์บำบัดระดับอำเภอ (ศูนย์ CI) 2.กลุ่มผู้เสพที่มีอาการทางจิต ส่งรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ โดยมีฝ่ายปกครองและตำรวจดูแลความปลอดภัย การรักษาแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะฉับพลัน (1-14 วัน) รักษาอาการก้าวร้าว อาการถอนพิษยา และอาการทางจิต ระยะกลาง (15-30 วัน)
เฝ้าระวังภาวะถอนพิษยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจ ระยะยาว (60-120 วัน) ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมฝึกอาชีพและเตรียมความพร้อมกลับสู่ชุมชน
เนื่องจากศูนย์บำบัดมินิธัญรักษ์ในปัจจุบันไม่เพียงพอโรงพยาบาลแต่ละแห่งจึงมีแผนขยายศูนย์บำบัดเพิ่มเติม และในอนาคตจะแยกผู้ป่วยจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดออกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษาหลังจากแถลงผลการดำเนินโครงการฯ ประธานมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ยังได้มอบเงินสนับสนุนให้โรงพยาบาลปรับปรุงอาคาร เพื่อแยกผู้ป่วยทั่วไปออกจากผู้ป่วยที่เสพยาเสพติด จำนวน 900,000 บาท
และมอบเงินให้หน่วยงานที่มีผลงานปราบปรามยาเสพติดอีกจำนวน 120,000 บาท
ด้าน นายโสภณ กล่าวว่า โครงการ “รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อป้องกัน ปราบปราม บำบัดฟื้นฟู ฝึกทักษะอาชีพ สร้างภูมิคุ้มกัน ผลการดำเนินการ 2 เดือนที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ มีผู้เข้าบำบัดฟื้นฟู 700 คน สามารถดึงกลับคืนสู่ครอบครัวและสังคมได้ถึงร้อยละ 50 นอกจากนี้ ยังมีการฝึกทักษะฝีมือ เพื่อให้นำไปประกอบอาชีพ ไม่หวนกลับมาเสพซ้ำและในปี 2568 ยังจะดำเนินการต่อเนื่อง แต่รูปแบบจะเปลี่ยนไป โดยจะเน้นการสร้างแรงจูงใจ หากหมู่บ้านไหนปลอดยาเสพติด เป็นหมู่บ้านสีขาว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews