สระแก้ว พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 18 ราย สะสม 190 ราย หลังสงกรานต์เริ่มมีผู้ติดเชื้อจากพื้นที่อื่น
นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้(19 เมษายน 64) จังหวัดสระแก้วมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18 รายมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลและการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน เป็นชาย 7 ราย หญิง 11 ราย อายุระหว่าง 5 เดือน-65 ปี สัญชาติไทยทั้งหมด ทำให้การระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 1–19 เมษายน 2564 จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยสะสม รวมทั้งสิ้น 190 ราย มีอาการ จำนวน 79 ราย ไม่มีอาการ จำนวน 111 ราย สัญชาติไทย จำนวน 181 ราย สัญชาติลาว 6 ราย สัญชาติกัมพูชา 3 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อจากโบว์ลิ่งผับ จำนวน 60 ราย รองลงมาเป็นผู้ติดเชื้อจาก REV UP ผับ 40 ราย เกอีชา คาราโอเกะ อรัญประเทศ 8 ราย ร้านโรงพักอรัญ 10 ราย สถานบันเทิงที่พัทยา 8 ราย และอื่นๆ จำนวน 64 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 กำลังรักษาตัว จำนวน 169 ราย รักษาหายแล้ว จำนวน 18 ราย ส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 1 ราย และอยู่ระหว่างติดตามมารักษา 2 ราย
นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยถึงรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทั้ง 18 ราย ว่า ผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกเป็นเพื่อนกับผู้ติดเชื้อหญิงรายเมื่อวานนี้ มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิง Cetus Club พัทยา จังหวัดชลบุรี วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย วันนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ไปเที่ยวร้านโรงพักอรัญมาตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ มีบางคนมาตรวจครั้งแรกและครั้งที่สอง พบผู้ติดเชื้อ 6 ราย แล้วยังพบพนักงานร้านขายโทรศัพท์แห่งหนึ่งในอำเภอเมืองสระแก้ว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ แล้วเพิ่งมาตรวจครั้งแรก ผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 พร้อมกับมารดา
ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางเข้าออกจังหวัดสระแก้ว ทำให้มีประชาชนส่วนหนึ่งเริ่มนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่ โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ของอำเภอวังน้ำเย็น 3 ราย ที่มีประวัติเดินทางไปกลับจากกรุงเทพฯ มาบ้านที่สระแก้วแล้วทราบว่าเพื่อนติดเชื้อจึงมาตรวจผลพบเชื้อโควิด-19 อีกสองรายเป็นสามีภรรยามีประวัติเดินทางไปรดน้ำดำหัวกับญาติที่จังหวัดสิงห์บุรี ทำให้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันซึ่งเป็นญาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news