คัดกรองโรคโควิดคนไทยในมาเลเซีย 50 ราย เสร็จสิ้น ชายแดนวังประจัน ส่งกักตัวตามจุดเตรียมไว้ ขณะสตูลพบอีก 1 ราย
พันจ่าเอกธวัช ช่วยชมเกตุ ปลัดอาวุโส อำเภอควนโดน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กำลังทหารตำรวจตมตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอควนโดน หลายๆฝ่าย ได้มีการจัดชุดสแกนสาธารณสุข ตรวจคัดกรองโรค โควิด กลุ่มคนไทยทั้ง 50 คนที่เดินทางเข้ามาในครั้งนี้ และมีการสอบซักประวัติเข้ม 1 ใน 50 นี้มีผู้ป่วยติดเตียงเดินทางมาด้วย ที่บริเวณชายแดนวังประจัน ติดกับประเทศมาเลเซีย ตำบลวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล
โดยทางการมาเลเซียขีดเส้นตาย ให้ออกนอกประเทศทั้งหมดภายในวันที่ 21 เม.ย. 64 หากฝ่าฝืนจะจับกุมดำเนินคดี ตามมาตรการผลักดันชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้คนไทยทยอยเดินทางกลับ ซึ่ง จ.สตูล ได้เตรียมพร้อมรับมือของคนกลุ่มนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ทำการคัดกรองตั้งแต่การเดินทางเข้าประเทศคือหน้าด่านบริเวณรอยต่อระหว่างด่านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียและด่านพรมแดนวังประจันของไทย มีการคัดกรองอย่างเข้มข้น โดยวันนี้รวม 50 คน ผ่านด่านวังประจัน อ.ควนโดน แบ่งเป็นชาวสตูล 4 คน คือ อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองสตูล จำนวน 3 คน และอำเภอละงู 1 คน ส่วนที่เหลือ คือ จ.ปัตตานี 32 คน ยะลา 5 คน สงขลา 4 คน และอื่น ๆ อีกจังหวัดละ 1 คน ประกอบด้วย จังหวัดพะเยา ระนอง เพชรบูรณ์ นราธิวาส และประจวบคีรีขันธ์ โดยคนไทยในจ.สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาสรวม 42 คน จะส่งกลับไปกักตัวที่ภูมิลำเนาหมด ส่วนที่เหลือคือสตูล และ จ.พะเยา ระนอง ประจวบฯ เพชรบูรณ์ รวม 8 คน จะกักตัวที่LQ ที่ทาง จ.สตูล เตรียมไว้เพื่อสังเกตอาการ โดยมีการเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ในการตรวจคัดกรองบริเวณด่านวังประจัน อำเภอควนโดน ขณะที่ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองวังประจัน ให้จัดเตรียมการตรวจลงตรา และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอควนโดน จัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ในการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ในส่วนของส่วน อ.เมืองสตูล อ.ละงู และ อบจ.สตูล ให้จัดยานพาหนะรับส่งเข้าสถานกักกันตัวใน LQ พื้นที่ และให้สำนักงานขนส่งจังหวัดสตูล จัดยานพาหนะส่งคนกลับภูมิลำเนา ที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลาต่อไป
ขณะนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าสตูล แถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยโควิด- 19 อีก 1 ราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
