เชียงใหม่วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 33 ราย คุมเข้มสถานการณ์ 2 พื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัด เชียงใหม่ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ในวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้นแต่ถือเป็นตัวเลขในระดับต่ำ การรักษาตัวของผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามทั้ง 3 แห่งหลัก ก็พบจำนวนผู้ป่วยลดลงตามลำดับ คาดว่าจะทำการปิดโรงพยาบาลสนาม ทั้งที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ เนื่องจากผู้ป่วยที่พ้นระยะรักษาหายแล้วกลับบ้านเพิ่มขึ้น
Covid-19 วันนี้ (6 พ.ค. 64) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จำนวน 33 ราย ซึ่งจำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้ยังไม่มีการพบในคลัสเตอร์ใหม่ เพียงแต่เกิดจากการเหลื่อมเวลาในการส่งข้อมูลผู้ติดเชื้อในการออกรหัสผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,822 ราย รักษาหายแล้ว 2,829 ราย และยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 984 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เสียชีวิตสะสม 9 ราย
สำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาตัว แยกเป็นผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 732 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 131 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 70 ราย และอาการหนัก (สีแดง) 17 ราย การตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในส่วนของโรงพยาบาลประจำอำเภอ พบร้อยละ 9.53 โรงพยาบาลเอกชน ร้อยละ 8.95 โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา (จุดตรวจคัดกรอง) ร้อยละ 6.64 แสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อได้แพร่กระจายออกไปในต่างอำเภอหลายอำเภอ ซึ่งสอดคล้องกับการเกิดคลัสเตอร์ในหลายอำเภอ เช่น อำเภออมก๋อย ฮอด หางดง และอำเภอเชียงดาว พบว่ามีความเสี่ยงจากการสัมผัสในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสัมผัสในชุมชนก็เพิ่มขึ้น ส่วนในที่ทำงานยอดสะสมลดลงเล็กน้อย อาจเนื่องมาจากมาตรการ Work From Home
สำหรับการตรวจคัดกรองเชิงรุก พื้นที่เสี่ยงที่บริษัทรถโดยสารประจำทางแห่งหนึ่ง พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย เป็นพนักงานขับรถทัวร์ ก่อนตรวจคัดกรองมีการขับรถไปยังกรุงเทพ และกลับมายังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย ตรวจหาเชื้อแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 11 ราย เป็นผู้โดยสาร ได้มีการโทรแจ้งให้สังเกตอาการตัวเองที่บ้าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news