สสจ.นครศรีธรรมราช เผย เร่งคุมคลัสเตอร์คนทรงเจ้าคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงกักตัวแล้วรอตรวจเชื้อ
ที่วัดบุญนารอบ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พระมหาบวร ปวรธมโม เจ้าอาวาสวัดบุญนารอบ ได้ประสานเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อหรือที่เรียกว่า “ทีมสกอต” มูลนิธิไต้เต๊กเซี่ยงตึ๊ง นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยญาติของผู้ป่วยติดเชื้อเป็นหญิงอายุ 64 ปี ชาวตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 5 ของจังหวัดนครศรีธรรมราชมาประกอบพิธีและฌาปนกิจ ส่วนการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายที่น่าสนใจล่าสุดนั้นสำนักงานสาธารณสุขนครศรีธรรมราช ได้รายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อในวันนี้รวม 27 ราย โดย 1 ในจำนวนนี้เป็นลูกเรือชาวเวียดนามที่ต้องคดีทำประมงรุกล้ำน่านน้ำประเทศไทย ต้องขังอยู่ที่เรือนจำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีข้อมูลการจับกุมเป็นลูกเรือชาวเวียดนามรวม 6 คน ได้ถูกแยกคุมขังจากนักโทษรายอื่นแต่อยู่ด้วยกัน 6 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบเชื้อ 1 ราย ทำให้เรือนจำปากพนังยกระดับการควบคุมพื้นที่สูงสุด
นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดแถลงการณ์พบผู้ติดเชื้อในวันนี้พบว่ามีจำนวน 27 ราย โดยกรณีการติดเชื้อในเรือนจำปากพนังพนักนั้นเป็น 1 ใน 6 นักโทษชาวเวียดนาม ซึ่งนายแพทย์จรัสพงษ์ ได้ตั้งข้อสังเกตตามหลักระบาดวิทยา ว่าการพบเชื้อชาวเวียดนามรายนี้เป็นการตรวจครั้งที่ 3 ในวันที่ 12 ของการกักตัวจึงพบเชื้อ กำลังสงสัยว่านักโทษรายนี้อาจรับเชื้อมาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ตั้งแต่ชั้นจับกุมจนถึงชั้นเรือนจำ ขณะได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องสังเกตอาการของตัวเองอย่างละเอียดและเข้าตรวจเชื้อ ส่วนอีก 5 คนนั้นอยู่ด้วยกันกับนักโทษที่ติดเชื้อน่าเชื่อว่าจะติดเชื้อร่วมด้วยจากการสัมผัสใกล้ชิด เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามควบคุม
ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์คนทรงในตำบลท่าประจำ อำเภอชะอวด รวม 13 ราย นั้นเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้เนื่องจากทั้ง 13 ที่พบเชื้อนั้นก่อนหน้านี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงอยู่แล้ว ดังนั้นสามารถสกัดการเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นๆได้มาก สำหรับการทรงเจ้าในเกิดขึ้นในพื้นที่พัทลุง ทางจังหวัดพัทลุงดำเนินการติดตามอยู่แล้ว ในส่วนของอำเภอเมือง คลัสเตอร์ของวงพนันไก่ชนนั้นได้พบมากขึ้นขณะนี้จาก 1 คนเราพบขยายไปเป็น 9 คน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
