ผู้ว่าฯกทม.สั่งเข้มคลัสเตอร์-เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง
กทม. เร่ง ฉีดวัคซีน กลุ่มเสี่ยง คนขับรถสาธารณะ ครู ก่อนเปิดเทอม ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มคลัสเตอร์ตลาดสด แคมป์คนงาน ขณะเปิดนั่งร้านอาหารทำตามระเบียบ ศบค.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจเยี่ยมการ ฉีดวัคซีน โควิด-19 ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งในวันนี้เป็นการเปิดให้บริการสำหรับกลุ่มพนักงานขับรถขนส่งสาธารณะ ที่ให้บริการกับประชาชนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถเมล์ ขับรถไฟฟ้า คนขับเรือ ประมาณ 1,000 คน และจะทยอยฉีดให้ครบ ประมาณ 7,000 คน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานเอง จากนั้นจะมีการเร่งให้บริการสำหรับ ครู อาจารย์ ในโรงเรียนของสังกัดกรุงเทพมหานคร และอื่นๆ ประมาณ 170,000 คน เพื่อรองรับเปิดเทอมที่กำลังจะมีขึ้น แต่จากตัวเลขของผู้ติดเชื้อจำนวนมากในเวลานี้ การเปิดเทอมที่จะถึงนี้อาจจะยังไม่สามารถทำได้เพราะยังถือว่ามีความเสี่ยงสูง
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพฯ พร้อมกระจายวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย ให้ได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วที่สุด โดยหลังจากนี้จะให้บริการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ผู้ที่มีอาชีพดูแลผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ซึ่งจะพิจารณาทยอยฉีดวัคซีนให้ตามลำดับความจำเป็น หลังจากกรุงเทพฯได้รับจัดสรรควัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น โดยภายในเดือนพฤษภาคมนี้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ได้ 5-6 แสนคน และตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป จนถึงสิ้นปีเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 1-1.5 ล้านคน และจะได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ ร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศได้
ผู้ว่า กทม. สั่งคุมเข้มคลัสเตอร์ตลาดสด แคมป์คนงาน ใน กทม. ลดจำนวนคนติดเชื้อ ขณะเปิดนั่งร้านอาหารทำตามระเบียบ ศบค.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงคลัสเตอร์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นแคมป์คนงานหรือตลาดสด โดยได้มีการสั่งดูแลให้จำกัดผู้ติดเชื้ออยู่ภายในพื้นที่ โดยในตลาดสดต่างๆ ให้ปิดเพื่อทำความสะอาดระมัดระวังไม่ให้มีการแพร่เชื้อเพิ่มมากขึ้น
ในส่วนของแคมป์คนงานต่างๆ จะใช้มาตรการปิดให้คนงานอยู่เฉพาะภายในพื้นที่จำกัดวงของผู้ติดเชื้อให้อยู่เฉพาะจุด อาจใช้โมเดลการควบคุมใกล้เคียงกับจังหวัดสมุทรสาคร เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค
และสำหรับกรณีที่มีข้อเสนอในเรื่องของการขอผ่อนผันถอดหน้ากากอนามัย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ทางกรุงเทพฯ เห็นว่าเป็นหน้าที่ของประธานสภา ที่จะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องของการกำหนดมาตรการต่างๆ โดยทางสภา ยังไม่ได้มีการส่งหนังสือใดๆ มาถึงกรุงเทพฯ แต่ในรายละเอียดเชื่อว่าทางสภาจะสามารถดูแลได้
และสำหรับการผ่อนผันให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้แล้วนั้น ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ทาง ศบค. กำหนดอย่างเคร่งครัดและเชื่อว่าจะสามารถดูแลให้การประกอบธุรกิจอยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้ และเชื่อว่าร้านอาหารไม่ใช่คลัสเตอร์ของการแพร่เชื้อ
กทม. เร่งควบคุมการแพร่ระบาดโควิดใน 27 คลัสเตอร์ กระจาย 17 เขตพื้นที่ – แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากสุด
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-15 พ.ค.64 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการแพร่ระบาด จำนวน 27 คลัสเตอร์ กระจายอยู่ใน 17 เขต ได้แก่ ดินแดง วัฒนา คลองเตย หลักสี่ ลาดพร้าว ราชเทวี พระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย สวนหลวง ปทุมวัน สาทร สัมพันธวงศ์ จตุจักร สีลม ประเวศ และวังทองหลาง อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรค 20 คลัสเตอร์ ดำเนินการควบคุมได้แล้วและใกล้ปิดการสอบสวน 7 คลัสเตอร์
โดยคลัสเตอร์ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นต่อวันของผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ 2.แฟลตดินแดง เขตดินแดง 3.แคมป์คนงานก่อสร้าง เขตวัฒนา 4.คลองถมเซ็นเตอร์และวงเวียน 22 ก.ค. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และ 5.ตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง
ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ร่วมกับสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม.) กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ 174 ครั้ง ตรวจหาเชื้อ 154,691 ราย พบเชื้อ 5,891 ราย รอผลการตรวจอีก 12,880 ราย
สำหรับการฉีดวัดซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำนักอนามัย กทม. ได้ฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 248,941 โด๊ส ผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป 19,902 โดส เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 31,717 โดส บุคคลที่มีโรคประจำตัว 20,414 โดส ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 117,555 โดส จำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 125,072 ราย รวมทั้งสิ้น 438,529 โดส
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news