ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อให้บริการแล้ว5,000คน
กระทรวงคมนาคม พอใจ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อวันแรกวานนี้ เรียบร้อยดี รถโดยสารสาธารณะรับบริการแล้ว 5,000 คน
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยและหน่วยงานในสังกัด ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์และสถาบันโรงผิวหนัง ได้ดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ (Central Vaccination Center)” ณ สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย สำหรับเป็นศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนสำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานด่านหน้าและประชาชน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการลดความแออัดของสถานพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีน และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการให้บริการฉีดวัคซีน ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเริ่มเปิดให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ระหว่างเวลา 09.00 – 20.00 น. แบ่งการให้บริการเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน 2564 สำหรับรองรับการให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่องค์กร หน่วยงานที่ดูแลประชาชน บุคลากรและผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะทั้งภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน – ธันวาคม 2564 สำหรับองค์กรและหน่วยงานอื่น ๆ ที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบการลงทะเบียนแล้ว
สำหรับการให้บริการในวันแรก (24 พฤษภาคม 2564) พบว่า มีบุคลากรของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และผู้ให้บริการในภาคคมนาคมขนส่งที่ได้ลงทะเบียนไว้ มาเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประมาณ 5,000 คน ในเบื้องต้นหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และเฝ้าสังเกตอาการที่จุดสังเกตอาการจนครบเวลาที่กำหนด ยังไม่พบผู้มีอาการข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อจะประเมินผลการปฏิบัติงานและทยอยเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้เต็มศักยภาพที่ศูนย์ฯ สามารถรองรับได้ 10,000 คน/วัน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม ขอแจ้งเรียนประชาชนว่า ในช่วงแรก “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” จะให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรขององค์กร หน่วยงานที่ดูแลประชาชน และผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังไม่มีนโยบายเปิดให้ประชาชน walk in แต่อย่างใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news