“อนุทิน” ยัน แอสตร้าฯ ยังส่งวัคซีนให้ไทยได้ตามกำหนด มอบกรมควบคุมโรคดูแลแผนฉีดให้เด็ก ปัดวัคซีนหมดเลื่อนฉีดม.33 จัดส่งตามคำขอทุกอย่าง
จากกรณีที่มีความกังวลว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า อาจจะส่งให้ไทยได้ล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผน เนื่องจาก มีข่าวว่าวัคซีนที่ผลิตในไทย จำเป็นต้องส่งให้ประเทศในภูมิภาคนี้ด้วย
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การจัดส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ยังเป็นแผนส่งรายสัปดาห์ ซึ่งการบริหารจัดการวัคซีนเป็นหน้าที่ของกรมควบคุมโรค ทางผู้ผลิตมีสัญญา ที่ต้องส่งให้ไทย และมาถึงตอนนี้ ก็ยังส่งวัคซีนให้ไทยได้ตามข้อกำหนดทุกอย่าง
ส่วนการที่จะส่งให้ประเทศอื่นๆ ก็เป็นเรื่องดี เพราะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในไทย ระบุข้างกล่องว่า ผลิตใน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย ได้ไปช่วยเหลือต่างประเทศ เป็นความภาคภูมิใจ
ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ ที่จะนำเข้ามายังเป็นแผนการฉีดสำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี ที่อยู่ในวัยเรียน ขณะนี้ ให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคคิดแผนรองรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กได้ที่โรงเรียน โดยปรับให้ห้องปฐมพยาบาล เป็นจุดฉีดวัคซีน โดยมีอุปกรณ์ทางการแพทย์รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินส่วนวัคซีนซิโนแวค ขณะนี้ประเทศจีน อยู่ในการศึกษาเฟส 3 เพื่อฉีดในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ซึ่งประเทศไทยเองก็ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ส่วนแผนการให้บริการวัคซีนโควิด 19 รองรับการเปิดภาคเรียน นายอนุทิน กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ จะมีมาตรการกำชับไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนต่างๆ เป็นความรับผิดชอบของหัวหน้าส่วนราชการแต่ละหน่วยงาน ที่ต้องวางแผนเอาไว้ ยืนยันว่า สธ. เป็นผู้ปฏิบัติที่ดีทำตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ทุกประการ
ขณะ สำนักงานประกันสังคม ประกาศว่า จะปิดจุดฉีดวัคซีน เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรเพิ่มเติม นายอนุทิน กล่าวว่า สธ. มีการส่งวัคซีนตามการร้องขอ และความเห็นชอบ ของ ศบค. เมื่อขอผ่าน ศบค. มาได้เท่าไร ทางกระทรวงฯ ก็จัดสรรให้เท่านั้น ข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้
“อนุทิน” ยันประกันสังคมหยุดฉีดวัคซีน ไม่เกี่ยว สธ. จัดส่งวัคซีนตามคำขอทุกอย่าง ย้ำกระจายไม่ขาดช่วง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงกรณีที่สํานักงานประกันสังคม ได้มีหนังสือแจ้ง ปิดปรับปรุง การให้บริการฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกันตนชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 12 – 27 มิถุนายนนี้ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับตน กระทรวงสาธารณสุข ก็ส่งวัคซีนตามคำขอทุกอย่าง การบริหารจัดการเป็นของหน่วยงาน
ซึ่งตนอยากทำความเข้าใจ ไม่ใช่มาลงที่กระทรวงสาธารณสุข ทั้งหมด ตอนนี้ทำหน้าที่จัดส่งวัคซีนตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. ไปยังหน่วยงานที่ร้องขอมา ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงการส่งถึงผู้ประกันตนมาตรา 33 ยืนยันว่าส่งตามข้อตกลงทุกอย่าง
ซึ่งล่าสุดประกันสังคมได้แจ้งไปยังบริษัทที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน โดยให้เหตุผลว่า ต้องการเช็คยอดการฉีดวัคซีนแต่ละบริษัท พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข โดยทางประกันสังคม ได้แจ้งไปยังกรมควบคุมโรค ว่าแต่ละหน่วยงานต้องการวัคซีน โดยตนได้สอบถามไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรค ก็ได้รับการยืนยันว่า ส่งไปหมดแล้ว ดังนั้นการจัดคิวก็ต้องเป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำหน้าที่ครบถ้วนหมดแล้ว ทั้งเรื่องวัคซีน และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ส่วนการกระจายวัคซีนไม่ขาดช่วงใช่หรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไม่มีขาดช่วงแน่นอน ทั้งในส่วนของสปสช. และโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยยืนยันว่า ส่งทุกอย่างทุกจังหวัด เมื่อวัคซีนถึงจังหวัดก็จะหมดหน้าที่ จากนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่กระจายไปในแต่ละพื้นที่ นี่คืออำนาจหน้าที่ของ ศบค.
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ต้องบูรณาการ หากกระทรวงสาธารณสุข รับเองหมด ต้องเป็นทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ คนเฝ้าชายแดน ตายแน่นอน ซึ่งหมอและพยาบาลทำได้แค่รักษาโรค
ทั้งนี้ นายอนุทิน ระบุว่า นายกรัฐมนตรี รับทราบทุกกรณีมาโดยตลอดได้สั่งการเพิ่มหากพื้นที่ใดมีความต้องการพิเศษ ซึ่งเป็นไปตามพระราชกำหนดฉุกเฉิน ตอนนี้ทุกอย่างเข้ารูปแบบทั้งหมดแล้ว
“อนุทิน” คุยทูตเบลเยียม หารือฉีดวัคซีนให้ชาวต่างชาติ เผย ฝรั่งเศส ขอนำเข้าวัคซีน เพื่อฉีดให้พลเมืองแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบกับ คณะเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียมประจำประเทศไทย และคณะเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เพื่อหารือความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งการแพทย์ การสาธารณสุข เพื่อดูแลประชากรของประเทศต้นทาง ที่อาศัยในประเทศไทยไปจนถึงการหารือด้านการค้า
นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านทูตประเทศเบลเยียม หารือข้อตกลงทำการแลกเปลี่ยนการดูแลสุขภาพ และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับคนเบลเยียมที่พักอาศัยในประเทศไทยที่มีจำนวนมากกว่าหมื่นคน โดยเฉพาะในภูเก็ต ที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ซึ่งไทยสามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประกันสังคมประเทศต้นทางได้ โดยเขาก็จะดูแลคนไทยในเบลเยียมด้วย ทั้งนี้ ทางทำเนียบเห็นชอบในหลักการ แต่คนดำเนินงานจะเป็นสำนักงานประกันสังคมและกระทรวงการต่างประเทศ ส่วน สธ. ก็เป็นผู้ปฏิบัติก็พร้อมให้ความร่วมมือ
ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นและยึดในหลักการว่าจะไม่มีใครปลอดภัย จนกว่าทุกคนจะปลอดภัย ฉีดเขาก็เพื่อเรา โดยให้ความมั่นใจกับเขาว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับทุกคนในประเทศไทย ซึ่งเขาสามารถไปลงทะเบียนให้ถูกต้อง เพื่อเข้ารับวัคซีนต่อไป
ขณะเดียวกัน ประเทศฝรั่งเศส มาเจรจาขออนุญาตกรมควบคุมโรค นำเข้าวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ประเทศไทยแล้ว เพื่อนำมาฉีดให้คนฝรั่งเศส อายุ 45 ปีขึ้นไป ที่อาศัยในประเทศไทย
เบื้องต้น กรมควบคุมโรคเห็นชอบในหลักการ และทราบว่าประเทศฝรั่งเศส จะนำเข้ามาในช่วงปลายเดือน มิ.ย. นี้ จำนวน 1 หมื่นโดส ทั้งนี้ ประเทศที่นำวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เข้ามาฉีดให้คนของเขาในประเทศเรา กรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องฉีดในสถานทูตซึ่งบุคลากรแพทย์ก็จะมีความมั่นใจว่าวัคซีนเหล่านั้นได้รับการขึ้นทะเบียนและนำเข้ามาฉีดอย่างถูกต้องแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news