ศบค. เผยพบคลัสเตอร์ใหม่ใน4 จ. ขณะ กทม. ไม่พบคลัสเตอร์ใหม่ ขอโทษปัญหาวัคซีน เชื่อ ศธ. มีมาตรการป้องกันรับเปิดเทอมเคร่งครัด
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. กล่าวถึงการพบคลัสเตอร์ใหม่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ จ.นครปฐม พบที่ อ.เมืองนครปฐม เป็นโรงหมูพบ 8 ราย จ.สมุทรปราการ ที่ อ.เมืองสมุทรปราการ ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร จำนวน 34 ราย ชุมชนเทศบาล ต.บางเมือง จำนวน 6 ราย จ.สมุทรสาคร ที่ อ.เมืองสมุทรสาคร เป็นโรงงานอาหารทะเล 12 รายโรงงานปลาแช่แข็งจำนวน 6 ราย จ.สงขลา ที่ อ.เมืองสงขลา เป็นบริษัทให้เช่าห้องเย็นติดเชื้อ จำนวน 21 ราย จ.นครศรีธรรมราช ที่ อ.เมือง อ.ท่าศาลา และ อ.พรหมคีรี เป็นการสัมผัสกันในชุมชนพบการติดเชื้อ 83 ราย จ.ปทุมธานี ที่ อ.ธัญบุรี เป็นแคมป์ก่อสร้างชาวไทยและชาวเมียนมาพบติดเชื้อ 5 ราย ชลบุรี ที่ อ.ศรีราชา เป็นแคมป์ก่อสร้างติดเชื้อ 6 ราย จ.ฉะเชิงเทรา ที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว เป็นโรงงานผลิตคอมเพรสเซอร์ติดเชื้อจำนวน 18 ราย ขณะที่ วันนี้ไม่พบคลัสเตอร์ในพื้นที่ กทม.
นพ.ทวีศิลป์ เน้นย้ำว่า จะวางแผนการจัดหาวัคซีนและแผนการกระจายวัคซีนจะต้องมีการสอดคล้องกัน ซึ่งแผนการจัดหาวัคซีนครึ่งเดือนแรกเป็นไปตามแผน แต่ครึ่งเดือนหลัง ขณะนี้ขรุขระไปบ้าง เนื่องจากวัคซีนเป็นวัคซีนใหม่ซึ่งต้องผ่านกระบวนการให้มั่นใจเพราะเป็นชีววัตถุ และต้องดูแลกันเป็นอย่างดี จึงทำให้เกิดเวลานั้นมีปัญหา ตนในฐานะที่เป็นโฆษก ศบค. ส่วนหนึ่งก็ต้องรับผิดชอบในด้านนี้แทนหน่วยงานต่างๆ ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูง ในความใส่ใจของประชาชนต่อเรื่องนี้ ยืนยันว่าทำงานกันอย่างหนัก ทุกส่วนทุกฝ่าย ต้องการหาวัคซีนมาโดยเร็วเพื่อให้ประชาชน อย่างตั้งใจหวังไว้ แต่กลับไม่ได้อย่างที่คิด ทั้งนี้ยังขอให้คำมั่นว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ และประเทศไทยมีบริษัทผลิตวัคซีนทำให้เชื่อมั่นได้ว่า จะเดินหน้าได้เป็นอย่างดี ก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน และนายกรัฐมนตรีอยากให้ในภาวะวิกฤตคนไทยรักกัน เพื่อให้มีความร่วมมือกัน พร้อมกับฝากความห่วงใยมาว่า สิ่งต่างๆ และความเห็นไม่ตรงกัน การทำงานมีรายละเอียดมากมาย ขอให้ทุกฝ่ายทุกส่วนได้พูดคุยกัน
โดยในเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมควบคุมโรค ก็อยู่ในเวทีเดียวกันและยืนยันว่า ต้องขอบคุณซึ่งกันและกันเพราะอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้จัดหาและอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้กระจาย ก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก หลายคนเป็นห่วงส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสือ ซึ่งมีความคิด 2-3 แบบที่พบอยู่เป็นประจำ คืออยากให้ไปเรียน ไม่อยากให้ไปเรียน ซึ่งมีความขัดแย้งได้ถึงความเห็น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องอยู่กับโรคนี้ซึ่งต้องปรับวิถีชีวิตกันไป ยอมรับว่าเด็กๆ มีโอกาสติดเชื้อ แต่ความรุนแรงของโรคก็ไม่ได้มาก คนที่ดูแล คือ ครูอาจารย์และผู้ปกครอง ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด การเรียนก็มีหลายระบบ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการก็ได้วางไว้หลายระบบตามโซนพื้นที่ควบคุม โลกต้องไม่ปิดกั้นการเรียนรู้ของทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนดีเสมอ ต้องนำทุกเรื่องมาสอนลูกหลาน แม้ว่าจะเกิดโรคระบาดเด็กๆ ก็ได้เรียนหนังสือ เพื่อรับรู้สิ่งใหม่ๆ
ศบค. เผย ปชช.กทม.-ภูเก็ตได้รับวัคซีนตามแผนที่กำหนดไว้ ขณะ กทม.ยังมีจำนวนู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. กล่าวว่า การฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึง 13 มิถุนายน 2564 ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเก็ต sandbox มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วจำนวน 333,570 คนผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 137,625 คน ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 1,346,993 คน เข็มที่ 2 จำนวน 369,401 คน ซึ่งทั้งสองจังหวัดนี้ได้รับวัคซีนให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ บุคลากรทางการแพทย์ เป็นเป้าหมายแรกที่จะได้รับวัคซีนตามแผนที่กำหนดไว้ โดยปริมาณการฉีดวัคซีนไปแล้วครั้งเข็ม 1 และเข็ม 2 กว่าร้อยละ 86.5 เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ร้อยละ 12.7 อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านร้อยละ 10.4 ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคร้อยละ 1.5 ประชาชนทั่วไปร้อยละ 2 ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 0.3
ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อ 10 ลำดับสะสม ประกอบด้วยกรุงเทพฯ 925 ราย นครปฐม 292 รายนนทบุรี 232 ราย สมุทรปราการ 196 รายสมุทรสาคร 158 ราย สงขลา 106 รายนครศรีธรรมราช 93 ราย ปทุมธานี 83 รายปัตตานี 67 ราย และชลบุรี 56 ราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news