ททท.ดึง3นักเตะเลสเตอร์ซิตี้โปรโมทภูเก็ตแซนด์บอกซ์
ททท. ดึง 3 นักเตะ “เลสเตอร์ ซิตี้” โปรโมท ภูเก็ต แซนด์บอกซ์ บอกเล่าความประทับใจ รอยยิ้มของคนไทย
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากอยู่ในภาวะซบเซาอย่างยาวนาน เพราะสถานการณ์โควิด-19 โดยใช้ภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญนั้น จึงมีมติเห็นชอบให้เปิดรับการท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตในรูปแบบภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ททท. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว จึงได้ขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชนของประเทศไทย คือ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ได้ให้ความร่วมมือสนับสนุนภาครัฐในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งในเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาโดยผ่าน Thailand smiles with you ที่เป็นการตอกย้ำความคิดถึงประเทศไทยด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญในการต้อนรับนักท่องเที่ยว
อีกทั้งให้ความร่วมมือในการจัดทําแคมเปญต้อนรับนักท่องเที่ยว “Phuket is now open” ภายใต้แนวคิด “Amazing Thailand, Now even more Amazing” ด้วยการใช้กีฬามาเป็นจุดดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยว หรือ Sport Tourism
โดย ททท. และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ โดยได้เชิญนักฟุตบอลสังกัด สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์ เอฟเอ คัพ ปีล่าสุด จำนวน 3 คน คือ เจมส์แมดดิสัน (James Maddison) ฮาร์วีย์บาร์นส (Harvey Barnes) เคลิซี่ อิเฮียนาโช่ (Kelechi Iheanacho) มาร่วมบอกเล่าเรื่องราวแห่งความประทับใจในรอยยิ้มของคนไทยและความตื่นตาตื่นใจมากกว่าเดิม ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชื่อ “Amazing Moments in Phuket”
นายธเนศวร์ กล่าวว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุด “Amazing Moments in Phuket” จะมีการเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศทาง สถานีโทรทัศน์ ช่อง BBC World News, สถานีโทรทัศน์ Euro News, ช่องทางประชาสัมพันธ์ของ King Power, ช่องทางประชาสัมพันธ์ของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ และช่องทางประชาสัมพันธ์ของ Dug out (บริษัทมีเดียเฉพาะด้านฟุตบอลระดับโลก) ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ททท. คาดว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอีกทั้ง ตอกย้ำให้เกิดการจดจำแบรนด์ Amazing Thailand ภายใต้แนวคิดการสื่อสาร “Amazing Moments” สร้างให้ประเทศไทยคงอยู่ในใจนักท่องเที่ยวด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่าง ปลอดภัย ตั้งเป้าหมายการรับรู้จากสื่อออฟไลน์ต่างประเทศ 20 ล้านคน/ครั้ง และสื่อออนไลน์ต่างประเทศ 24 ล้านคน/ครั้ง มุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเดินทางในเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียล, กลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง , ครอบครัว และกลุ่มชาวต่างประเทศที่พำนักในประเทศไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news