ศูนย์บางซื่อฉีดวัคซีนไปแล้ว3.75แสนราย
ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เผย ตั้งแต่ 24 พ.ค. ถึงปัจจุบัน ฉีดวัคซีนไปแล้ว 375,000 ราย พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ ให้บุคลากรทางการแพทย์
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการบริหารศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดกลางบางซื่อ เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้เปิดให้บริการเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีน Covid-19
โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม เพื่อเป็นสถานที่ฉีดวัคซีนประเภทโรงพยาบาลสนามชั่วคราว ในการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลให้ประชาชน บุคลากรผู้ให้บริการในระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะ บุคลากรครู บุคลากรจากสถาบัน องค์กร วิชาชีพต่างๆ ตลอดจนประชาชนผู้ลงทะเบียนผ่านระบบผู้ให้บริการมือถือทุกเครือข่าย และผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 30 วัน มีผลการดำเนินงานให้บริการประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนแล้วรวมกว่า 375,000 ราย โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น เนื่องจากวัคซีนได้มาจากการจัดสรรตามนโยบายของรัฐบาล และการดำเนินงานในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข เป็นความเสียสละในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์นอกเหนือจากงานประจำที่มีอยู่ ประกอบด้วยจิตอาสาทางการแพทย์ (อาจารย์แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ รวมทั้งผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้วแต่มีจิตอุทิศเวลามาปฏิบัติงานเพื่อเป็นสาธารณกุศล) และจิตอาสาจากหน่วยงานต่างๆ จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มาช่วยปฏิบัติงานทุกวันๆ ละ 11 ชั่วโมง จำนวนรวมมากกว่า 1,000 คนต่อวัน ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้ให้การสนับสนุน สถานที่ อาหาร น้ำดื่ม แก่บุคลากร รวมถึงการจัดเตรียมเครื่องดื่มไว้เพื่อบริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งได้รับการสนับสนุนบางส่วนมาจากการช่วยเหลือทางสังคมของบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่กรุณาให้ความช่วยเหลือ
โดยศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ต้องขอขอบคุณผู้ที่เข้ามาใช้บริการทุกท่านที่กรุณาให้กำลังใจ และแสดงความขอบคุณแก่บุคลากร ในช่องทางต่างๆ อันส่งผลให้มีกำลังใจในการปฏิบัติงาน และจะพากเพียรให้บริการจนกว่าภารกิจการสนับสนุนวาระการฉีดวัคซีนแห่งชาติจะสัมฤทธิ์ผลตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยความโปร่งใส และยึดมั่นในการสร้างความสุข และปลอดภัยให้แก่ประชาชน ด้วยหลักคุณธรรม
ทั้งนี้ หากมีการแอบอ้างผลประโยชน์ในทางไม่ชอบขอให้ส่งข้อมูลทาง E-MAIL : [email protected] กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคมจะได้ร่วมดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดีทางอาญาอย่างถึงที่สุด แก่ผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news