ศบค.ปัดล็อกดาวน์กทม.หลังโควิดพุ่งหนุนซีลบางจุด
ศบค. เผย ภาคเอกชนร่วมช่วยรับผู้ป่วยระดับสีแดงจากโรงพยาบาลรัฐ ขณะยอดติดเชื้อยังคงเพิ่ม ย้ำข้อเสนอล็อกดาวน์เป็นเรื่องที่ดี แต่มีผลกระทบมาก
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ระบุว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. มีการพูดคุยถึงรูปแบบการโยกย้ายผู้ป่วยในระดับสีแดงจากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเอกชนที่เข้ามาร่วม เช่น โรงพยาบาลพลังแผ่นดินที่รับผู้ป่วยสีแดงจากโรงพยาบาลรัฐหรือโรงพยาบาลสนาม ซึ่งได้ประโยชน์อย่างมาก
ขณะที่มีรายงานในที่ประชุมการแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบที่เขตบางคอแหลม เป็นโรงงานเย็บผ้า ซอยประดู่ 1 ซึ่งมีการตรวจพนักงานไปทั้งหมด 267 คน พบผู้ป่วยรายใหม่ 34 ราย, เขตคลองสาน ที่โรงงานทำจิวเวอร์รี่ มีพนักงาน 281 คน ติดเชื้อ 46 ราย ขณะที่จังหวัดสมุทรปราการ มีคลัสเตอร์ อำเภอบางเสาธงโรงงานน้ำแข็ง 17 ราย เมืองสมุทรปราการบริษัทก่อสร้าง 167 ราย ขณะที่สมุทรสาครที่อำเภอกระทุ่มแบนโรงงาน ผลิตยางรถยนต์ 5 รายและโรงงานอาหารทะเลแปรรูป 6 ราย ปทุมธานีหนองแคบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ 22 รายจังหวัดราชบุรีที่เมืองราชบุรีเป็นค่ายทหาร 73 ราย
ทั้งนี้นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยมีผู้ป่วยอยู่ส่วนหนึ่งรอเตียงเข้ามา และเข้ามาในโซนสีเขียว ทาง ศปก.ศบค. มองดูว่าหากย้ายออกไปอยู่ใน Hospitel ซึ่งเป็นคู่สัญญาอยู่ในกรุงเทพฯก็สามารถทำได้ จะทำให้คนกลุ่มนี้เข้าไปสู่ Hospitel เพื่อรับผู้ป่วยที่มีอาการเข้ามาประเมิน ขณะที่ผู้ป่วยที่มีสีแดงและสีเหลืองได้มีการหารือถึงศักยภาพของภาครัฐ แต่ถ้าเอกชนก็ไม่ใช่ว่าจะมีเตียงมากจึงต้องมีผลทางใหม่ การสร้างบางที่ที่มีโครงสร้างอยู่แล้วโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ซึ่งต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการดูแล มีโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนมีสถานที่อยู่แล้วสามารถปรับให้ขึ้นเป็นโรงพยาบาลรับผู้ป่วยสีแดงได้หรือไม่ โดยจะมีการเพิ่มเติมเครื่องมือลงไป โดยมอบให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด ไปประชุมปรึกษาเพื่อขยายศักยภาพ โดยสิ่งที่เป็นคอขวด คือ ไม่มีบุคลากรภาครัฐเข้ามาดูแล ยังมีบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่โรงพยาบาลเอกชนโดยทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กลไกของการบริหารจะต้องเปลี่ยนแปลงของค่าปกติขณะนี้ก็มาเจอสถานการณ์วิกฤต
จึงต้องมีการจัดใหม่ขึ้นมา โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ได้ให้โจทก์ กทม. ดึงโมเดลใหม่ๆ ดึงศักยภาพหน่วยงานเอกชน
ขณะที่พบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวนมาก จึงมีข้อเสนอว่าอยากให้มีการล็อกดาวน์อย่างน้อย 7 วัน เพื่อลดการเคลื่อนย้าย นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อเสนอ ด้วยความยินดี และนำข้อเสนอนั้นมาหารือในที่ประชุม และได้รับทราบว่าการล็อกดาวน์เป็นเรื่องที่ได้ผลได้ดี แต่อย่างไรก็ตามการปฏิบัติในทุกวันนี้ก็ดำเนินการอยู่ในลักษณะเฉพาะจุดเฉพาะที่ไป เกิดเหตุตรงไหนก็จัดการตรงนั้น ตั้งแคมป์คนงานก่อสร้างโรงงาน หลายแห่งหลายที่ก็ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งมาตรการก็จะมีทั้งเชิงบวกและเชิงลบจึงต้องมาไตร่ตรอง โดยการปิดกรุงเทพมหานครจะทราบว่าคนในกรุงเทพมหานครมีจำนวนไม่มาก เมื่อหยุดกิจการ คนที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัดทะลักกลับบ้าน ซึ่งจะทำให้เกิดการระบาดเพิ่มมากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news