“อนุทิน”แย้มแผนแก้ปัญหาเตียงเต็ม
“อนุทิน” แย้มแผนแก้ปัญหาเตียงเต็ม เตรียมเพิ่มศักยภาพ รพ.สนาม ให้ใกล้เคียง “รพ.บุษราคัม”
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มีจำนวนมากขึ้น ว่า แต่ละหน่วยงานมีบทบาทการดูแลรับผิดชอบที่ชัดเจน อย่างใน กทม. กรุงเทพมหานตร ได้รับหน้าที่ให้จัดการพื้นที่ของตนเอง
ส่วนกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ให้การสนับสนุน ซึ่งได้ทำอย่างเต็มที่อยู่เสมอ อาทิ การให้โรงพยาบาลบุษราคัม เข้ามาแบ่งเบางานหนัก ที่นี่ได้รับผู้ป่วยต่างชาติระดับสีเหลืองแล้ว และสิ่งที่ สธ.กำลังเร่งดำเนินการคือจะต้องเปิดเตียงและห้องไอซียู รพ.หลักให้มากที่สุด
นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดในการเพิ่มศักยภาพ รพ.สนาม ให้ใกล้เคียงกับที่มี รพ.บุษราคัม มี เพื่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาผู้ป่วย ที่แสดงอาการ ในระดับเกณฑ์สีเหลือง ซึ่งจะช่วยลดอัตราการสูญเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น ยังต้องพัฒนาเรื่องศูนย์แรกรับ จากที่ปัจจุบัน ได้จัดตั้งศูนย์แรกรับส่งต่อผู้ป่วยโควิด 19 ที่อาคาร นิมิบุตร ที่ผ่านมาปฏิบัติงานได้ผล น่าพอใจ ก็อาจจะต้องเพิ่มเติม 1 แห่ง เช่น อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก เพื่อรองรับผู้ป่วยสีเหลืองด้วย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ มีแผนว่าจะสับเปลี่ยนจากจังหวัดต่างๆ เข้ามาในพื้นที่
สำหรับกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นกลุ่มลักลอบเข้าเมือง กระทรวงสาธารณสุข มีแผนจะเข้าไปดูแลปัญหาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อติดเชื้อเข้ามา ก็ต้องรักษาตามหลักมนุษยธรรม ส่วนการป้องกัน ปราบปรามกลุ่มลอบเข้าเมืองนั้น ทางรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามเรื่องการลักลอบจ้างแรงงานผิดกฎหมายมาโดยตลอด เมื่อมีการลักลอบจ้างแรงงาน ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้น นายอนุทิน ได้อธิบายถึงปัญหาการนำเข้าวัคซีนยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งถูกสื่อมวลชนชื่อดังตั้งข้อสงสัยว่าเป็นไปอย่างล่าช้า ว่า วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนทางเลือก ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว กรณีนี้ หากเอกชนต้องการซื้อ แต่ผู้ผลิตไม่ยอมขายให้เอกชน เพราะต้องการจำหน่ายให้รัฐเท่านั้น องค์การเภสัชกรรม(อภ.) ก็พร้อมเป็นสะพานเชื่อมให้ แต่ทางผู้ผลิต ต้องยืนยันตัวเลขการจัดหา และปฏิบัติไปตามขั้นตอน
ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ รัฐบาลได้สั่งซื้อจำนวน 20 ล้านโดส และได้ลงนามในเทอมชีทร่วมกันเป็นที่เรียบร้อย แต่ล่าสุด บริษัทฯ แจ้งว่าสามารถส่งวัคซีนให้เราได้ในไตรมาส 4 โดยยอดการสั่งซื้อ 20 ล้านโดส เป็นยอดที่บริษัทแจ้งว่าจะสามารถจัดสรรให้ประเทศไทยได้ภายในปีนี้ เพราะวัคซีนยังเป็นสิ่งที่ทั่วโลกมีความต้องการสูง และได้พยายามเจรจาเพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์มากที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news