ศบค.จ่อปิดแค่จุดเสี่ยงปรับโซนสีรพ.รับคนป่วย
ศบค. ขอความร่วมมือ รพ.เอกชน สนับสนุนเตียงและบุคลากรทางการแพทย์ระดมความช่วยเหลือ รพ.สนามแห่งใหม่ ใน กทม.และปริมณฑล ขณะพบ 8 คลัสเตอร์ใหม่พื้นที่ กทม.
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือ ศบค. เผยว่า ที่ประชุม ศบค. มีความเป็นกังวลในส่วน กทม.และปริมณฑลในเรื่องเตียง และมีความพยายามที่จะขยายศักยภาพโรงพยาบาล โดยเฉพาะการรองรับเตียงในระดับความรุนแรงสีเหลืองและสีแดง
โดยในวันนี้ที่ประชุม ศปก. ศบค. ได้มีการรายงานการขยายเตียงเพิ่ม โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 11 แจ้งวัฒนะ ได้มีการเชิญภาคเอกชนไปดูสถานที่ เพื่อติดตามและพยายามหาสถานที่ในการดูระดับสีเหลืองและสีแดง
ขณะที่มีการเพิ่มปรับเตียงระดับสีที่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ปรับเพิ่มเตียงสีเหลือง 70 เตียง สีแดงอีก 16 เตียง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เพิ่มเตียงสีเหลือง 100 เตียง และแดง 40 เตียง โรงพยาบาลธนบุรี มณฑลทหารบกที่ 11 สีเหลือง 200 เตียง แดง 55 เตียง โดยจะเริ่มในวันที่ 2 ก.ค.64
นอกจากนี้ มีการขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชน ขอให้ทุกโรงพยาบาลเก็บเตียง ขอสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งบุคลากรด้านอื่นๆ ที่จะเข้าไปช่วยระดมความช่วยเหลือ ในส่วนของเตรียมที่จะเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมไปถึงโรงเรียนแพทย์
โดยในที่ประชุมจะมีการเสนอแพทย์ประจำบ้าน หรือ แพทย์ที่จบใหม่ กว่า 2,000 คน ที่จะสามารถช่วยระดมความช่วยเหลือในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยความพยายามที่จะเพิ่มศักยภาพการขยายเตียงรับผู้ป่วยในระดับรุนแรงของพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศปก. ศบค. มีการหารือในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งคัดแยกตามลักษณะของการติดเชื้อจะเห็นได้ว่า แคมป์คนงาน โรงงาน ตลาด ชุมชนที่มีการเฝ้าระวังและมีการรายงานมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ ที่มีการแพร่ระบาดมากกว่า 28 วัน ซึ่งทำให้เห็นได้ว่าการจัดการ Bubble and Seal หรือการปิดพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดและมีการเฝ้าระวังจัดการให้เบ็ดเสร็จอยู่ในพื้นที่นั้นๆ
มีความแตกต่างจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีเคยศึกษามาในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยปกติ มีการปิดโรงงานให้คนงานอยู่ในนั้น 16 – 28 วัน การแพร่ระบาดก็จะยุติ และจะสามารถทำให้คนกลุ่มนี้กลับบ้านกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แต่มีการหารือกันว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริบทของแคมป์คนงาน ตลาด โดยโรงงาน ที่มีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง จากการที่ 28 วันในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่สามารถจบคลัสเตอร์ หรือกลุ่มก้อนการติดเชื้อเหล่านี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความร่วมมือ เนื่องจากแคมป์คนงานโรงงาน เมื่อสั่งปิดก็จะมีการเล็ดลอดออกไปยังพื้นที่ตลาด ไปยังชุมชน ไม่สามารถปิดการแพร่กระจายเชื้อ จะทำให้เห็นว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 24-27 วัน สูงถึง 13 คลัสเตอร์ สะท้อนให้เห็นภาพของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ไม่สามารถใช้การล็อกดาวน์ได้
โดยหากแยกตามกลุ่มย่อยของการติดเชื้อ ถ้ามีลักษณะการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน โรงงานสถานประกอบการ ตลาด และชุมชน โดยข้อเสนอในสัปดาห์นี้ ที่มีการถกเถียงกันคือการปิดล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขเอง มีความเป็นห่วงการแพร่ระบาด ขยายวงกว้าง และทำให้เตียงหรือระบบสาธารณสุข ที่ทำงานกันอย่างหนัก รองรับไม่ไหว
โดยที่ประชุมมีการหารือกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเน้นย้ำว่า จะต้องรับฟังทุกฝ่ายเดียวเรื่องเตียง ซึ่งมีความเป็นห่วง และพยายามที่จะขยายศักยภาพ โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำ มาตลอดไม่เข้าใจ และพยายามที่จะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามที่จะแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด โดยในช่วงสัปดาห์นี้ก็จะเห็นผู้ประกอบการสถานประกอบการต่างๆ มีการยื่นเรื่องข้อเสนอให้ทบทวนมาตรการการปิด หรือล็อกดาวน์
พร้อมยืนยัน ศบค. รับฟังทุกฝ่าย และเห็นใจลูกจ้างที่จะทำงานประจำ โดยกรมควบคุมโรคมีการเสนอในลักษณะการล็อกเป็นจุด มีองค์ประกอบ 3 จุด คือ ปิดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง / บุคคลกลุ่มเสี่ยง ช่วยในเฉพาะพื้นที่ ที่มีแรงงานต่างด้าวความผิด เฉพาะคนกลุ่มเสี่ยง /หรือปิดในกิจกรรมกิจกรรมเสี่ยง มากกว่าการปิดทั้งหมดทั้งกรุงเทพฯ
ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัด จะเห็นภาพชัดเจนแทนที่จะปิดล็อกทั้งจังหวัด อาจจะมีการหารือว่า ตำบลไหนเสี่ยง ตลาดใดเสี่ยง หรือแคมป์คนงานก่อสร้างใดเสี่ยง ให้ล็อกเฉพาะพื้นที่ โดยสิ่งสำคัญมีความเป็นห่วงว่า นอกจากการล็อกจะไม่ได้แก้ปัญหา แต่จะทำให้เป็นการจุดชนวนของปัญหามากขึ้น เช่นตัวอย่างแนวโรงเรียนมารากัร ซึ่งมีการแพร่กระจายไปยังจังหวัดอื่นๆใน 11 จังหวัด ยืนยันว่ามีการหารือกันอย่างทุกแง่มุม
โดยในวันนี้เวลา 14:00 น. จะมีการหารือเรื่องการล็อกดาวน์ โดยมีนายกรัฐมนตรี ร่วมกับคณะที่ปรึกษาทั้งตัวแทนด้านสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และมหาดไทย โดยขอให้ประชาชนติดตามผลการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้
ขณะที่ มีการรายงานรับทหารกองเกิน เข้าประจำการ ซึ่งมีการนำเสนอการเตรียมความพร้อมทหารเกณฑ์ผลัดใหม่ รวมทั้งประเทศอยู่ที่ 60,000 คน โดยจะมีการรายงานตัวผ่านที่ว่าการอำเภอ มีมาตรการคัดกรองโดยยึดตามมาตรการด้านสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายในช่วงการพักคอย มีการจัดสถานที่ยึดหลักเว้นระยะห่าง ล้างมือ โดยในระหว่างการเดินทางก็จะมีการเว้นระยะห่างที่นั่งบนรถ จะไม่มีการแวะระหว่างทาง และเมื่อถึงจะมีการกักตัวอบรมให้ความรู้ 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเข้าไปปะปนในกองทหาร
โดยสำหรับผู้ที่ไม่สามารถมารายงานตัวได้ ขอให้นำเอกสารมายืนยัน ก็จะไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อสิ้นสุดการกักตัวก็สามารถดำเนินการรายงานตัว โดยผู้ที่มาจากพื้นที่สีแดงเข้ม หรือมีประวัติจะถูกดำเนินการส่งตัวไปที่ โรงพยาบาล โดยต้องขอความร่วมมือในส่วนของทหาร วิธีการปฏิบัติการอย่างเข้มงวดกับปลายทาง ที่ทหารจะเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดนั้น โดยเน้นไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดวางมาตรการเข้มงวดในพื้นที่จังหวัดในวันที่ 1 – 3 ก.ค. นี้ จึงฝากไปยังผู้ปกครอง งดเว้นการเดินทางไปส่งบุตรหลาน เพื่อให้เรียบร้อยและปลอดภัย นอกจากนี้มีการขอวัคซีนให้กับทหารเกณฑ์ที่จะเข้าประจำการใหม่ และครูฝึก
ศบค.เผย พบ 8 คลัสเตอร์ใหม่พื้นที่ กทม. เฉพาะเขตบางขุนเทียน เกิดใหม่ 3 คลัสเตอร์
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยว่า กรุงเทพมหานครพบคลัสเตอร์ใหม่ 8 คลัสเตอร์ พบที่บางขุนเทียนมีการรายงานคลัสเตอร์ใหม่ 3 คลัสเตอร์ ที่บริษัทผลิตถังแก๊สปริโตเลียม พบผู้ป่วยยืนยัน 49 ราย, บริษัทขนมขบเคี้ยว พบผู้ป่วยยืนยัน 33 ราย และที่บริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง พบผู้ป่วยยืนยัน 80 ราย เขตบางบอน ที่บริษัทผลิตเสื้อผ้า เขตบางแค เป็นบริษัทจำหน่ายพลาสติกบรรจุภัณฑ์ภาชนะ
เขตคลองสามวา มี 2 คลัสเตอร์ใหม่ ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ถนนพระยาสุเรน รายงานพบผู้ติดเชื้อ 40 ราย และที่แคมป์คนงานก่อสร้างคู้บอน รายงานพบผู้ติดเชื้อ 15 ราย
และที่เขตสวนหลวง ที่แคมป์ก่อสร้างพัฒนาการ 38 พบผลยืนยัน 198 รายจากการตรวจทั้งหมด 233 ราย ซึ่ง กทม. มีคลัสเตอร์ ที่ต้องเฝ้าระวัง ทั้งหมด 107 คลัสเตอร์ โดยที่ประชุมหารือกันด้วย เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการรายงานคลัสเตอร์หลัก เป็นแคมป์คนงาน, โรงงาน, ตลาด, สถานประกอบการ เป็นต้น ซึ่งที่ประชุมมีการหารือถึงรายละเอียดกันอีกด้วย
นอกจากนี้ ที่จังหวัดสมุทราปราการ พบคลัสเตอร์ที่ อ.บางพลี เป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จากการสอบสวนโรคพบเกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ที่รายงานในวันนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาช่างฝีมือจบการศึกษา และอยู่ระหว่างเข้าสู่ระบบการฝึกงาน โดยเชื่อมโยงไปยังหลายโรงงานทั้งโรงงานผลิตสี ผลิตรถยนต์ จึงทำให้แพร่ไปหลายคลัสเตอร์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news