สุราษฎร์ธานี-พังงาพร้อมเปิดเมืองต่อภูเก็ต
สุราษฎร์ธานี-พังงาพร้อมเปิดเมืองต่อภูเก็ต
ประเทศไทยเตรียมเปิดเมืองภูเก็ต 1 กรกฎาคม 64นี้ หลังครม. ได้เห็นชอบโดยผ่านโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ส่วนจังหวัดพังงา และเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีนั้น จะเริ่มเปิดในวันที่ 15 ก.ค. 64 ซึ่งทั้ง 3 จังหวัดได้บริหารจัดการควบคุมการเข้าออกของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งที่เดินทางจากต่างประเทศและภายในประเทศ ตั้งแต่เริ่มเข้ามาจนกระทั่งเดินทางออก ขณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) มีระบบ
โดยจัดตั้งคัดกรองด่านเข้า-ออกทางอากาศและทางเรือทั้ง 3 เกาะอย่างเข้มงวด
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้สัมภาษณ์ นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา ได้ระบุถึงการเตรียมความพร้อมเปิดเมืองว่าขณะนี้ในจังหวัดได้เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในเดือนกรกฎาคม 64 นี้ โดยจะมีการตรวจว่านักท่องเที่ยวทุกคนได้ฉีดวัคซีนครบสองเข็มหรือไม่ หลังจากนั้นจะทำการสวอปหาเชื้อ และหากบุคคลใดเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต้องรายงานตัว เพื่อกักตัวต่อไปทั้งนี้จังหวัดได้นำมาตรการของภูเก็ตมาประยุกต์ใช้ด้วยเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินฉีดวัคซีนเกิน70% ของจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 100,000 คน แล้ว อีกทั้งบุคลากรทางการศึกษาก็ได้ระดมฉีดวัคซีนครบ 100% และแม้ว่าในพื้นที่จะพบผู้ติดเชื้อโควิดมัรกัสจากจังหวัดยะลา 5 ราย ประกอบกับ มีกลุ่มเสี่ยงอีก 40 กว่าราย แต่พังงาก็มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แน่นอน เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเป็นโควิดสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด
นอกจากนี้ ทางสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้สัมภาษณ์นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้บอกถึงการเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวว่าขณะนี้พบคลัสเตอร์มัรกัสจากจังหวัดยะลาเข้ามาในพื้นที่ 9 ราย ซึ่งทำการกักตัวเรียบร้อยแล้วเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปยังชุมชนอื่น ขณะยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ระลอกเดือนเมษายนถึงปัจจุบันมีกว่า1พันราย และเสียชีวิตแล้ว 12 ราย
เบื้องต้นได้ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่งได้ประมาณ 15% ส่วนเข็มที่สองได้ 3% กว่า จากจำนวนประชากรทั้งหมด 100,000 กว่าราย ที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นวัคซีนซิโนแวค ขณะที่ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า ยังคงขาดอีก 50,000 โดส ถึงจะครบจำนวนคน ดังนั้นจึงเร่งสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นต้น
พร้อมกันนั้นภาคเอกชนยังได้ให้ความเห็นว่าคงต้องเปิดตามไทม์ไลน์เดิม เพราะขณะนี้เอกชนไม่ไหวแล้ว ต้องเปิดเมืองเสียที และพร้อมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นประกอบกับที่ผ่านมามีการเตรียมความพร้อมทั้งรัฐและเอกชนกว่า 5 เดือนสำหรับโปรเจคนี้ มีการระดมฉีดวัคซีนให้ได้มากถึง 70 % ของประชากรมีการสกรีนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีมติให้เปิดเมืองท่องเที่ยวแต่คลัสเตอร์มัรกัสก็ได้กระจายไปหลายพื้นที่ในภาคใต้แล้ว ต้องจับตาว่าหลังเปิดเมืองแล้วจะสามารถทำให้เศรษฐกิจและท่องเที่ยวกลับมาฟื้นฟูได้หรือไม่อย่างไร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news