ศบค. สั่งปรับวอร์ดเพิ่มเตียงสีแดง ใน รพ. ปรับมาตรการ รองรับผู้ป่วย ส่งผู้ป่วยสีเขียวแยกกักที่บ้าน กทม. เร่งทำ 20 Community Isolation
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม EOC และที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้พูดถึงความห่วงใยกรณีผู้ป่วยจำนวนมาก ที่มีความต้องการเตียงแต่ยังไม่เพียงพอ ได้รับทราบมาตรการที่ต้องมีการปรับสีเตียง สีเหลืองและสีแดง ให้ใช้ กับโรงพยาบาลที่ได้รับเป็นส่วนใหญ่ สีเขียวต้องกลับสู่การแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) และการแยกกักในชุมชน (Community Isolation) ซึ่งทางผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครได้มีการสั่งการสร้างพื้นที่ Community Isolation ซึ่งเดิมเคยทำที่วัดแห่งหนึ่งในเขตคลองเตย ซึ่งจะใช้โมเดลนี้ดำเนินการในอีก 20 แห่ง ซึ่งจะดำเนินการใน 1-2 วันนี้ ขณะเดียวกัน ต้องใช้เวลาพอสมควรในการเพิ่มเตียงในระดับสีแดง หรือ ICU โดยจะมีการปรับวอร์ดในโรงพยาบาล ซึ่งคนไข้ที่ไม่ได้เป็นโควิด-19 หากรอได้ขอให้รอไปก่อนอย่าเพิ่งแอดมิด โดยจะนำผู้ป่วยในระดับสีเหลืองเข้าไป
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า กรณีที่เปิดให้คนต่างชาติ และคนไทยเข้าไปในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 4 วัน เป็นคนต่างชาติ 1,416 คน คนไทยที่กลับจากต่างประเทศ 477 คนรวมแล้ว 1,893 ราย ตรวจไม่พบติดเชื้อ 1,764 รายรอผล 129 ราย จำนวนเที่ยวบินเข้ามา 20 เที่ยวบิน ส่วนมาตรการดูแล ซึ่งหากจ้างมาจากต่างประเทศ จะมีระบบที่ดูแลอยู่แล้ว แต่คนไทยที่จะเข้าไปในจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการโรคติดต่อได้ออกข้อกำหนดออกมาเหมือนกัน และขออภัยในความไม่สะดวกกับคนไทย ที่ต้องการจะเดินเข้าไปในจังหวัดภูเก็ตในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อต้องการทดสอบระบบการป้องกัน
ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการ รองรับผู้ป่วยนายแพทย์ทวีศิลป์ระบุว่า ที่มีการป่วยกันมาก เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้า หรือสายพันธุ์อินเดีย ภาระการดูแลผู้ติดเชื้อ 1 คน ต้องใช้เวลาถึง 14 วัน ทำให้ต้องมีการใช้พื้นที่เตียงดังนั้นต้องมีการปรับเปลี่ยน จึงได้เห็นโรงพยาบาลจะสำรองเตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยสีแดงและสีเหลืองเท่านั้น และต้องมีพื้นที่ของผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจแล้วต้องไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ต้องใช้การแยกกักตัวที่บ้านและชุมชน ซึ่งมาตรการนี้เป็นการยกระดับทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมถึงต่างจังหวัดทั่วประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news