ศบค. รับทุกจังหวัดมีผู้ติดเชื้อ ห่วงข้ามจังหวัดกระจายเชื้อมากขึ้น ยัน สธ. เสนอปรับเพิ่มมาตรการ ไม่ใช่ล็อกดาวน์ รอ ที่ประชุมสรุปพรุ่งนี้
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีมีผู้ป่วยจากกรุงเทพฯและปริมณฑลเดินทางข้ามจังหวัด ขณะนี้ทุกจังหวัดมีรายงานผู้ติดเชื้อทุกจังหวัด โดย ศบค. กังวลเรื่องกลุ่มผู้ป่วยที่มีการเดินทางข้ามจังหวัด และมีการติดเชื้อ โดยแบ่งเป็น ภาคเหนือ 12 จังหวัด 276 ราย ภาคกลางและตะวันออก 17 จังหวัด 204 ราย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด 841 ราย ภาคใต้ 5 จังหวัด 44 ราย ซึ่งผู้ที่เดินทางข้ามจังหวัดบางส่วนเดินทางไปในพื้นที่ ที่มีลักษณะเป็นสีเหลือง ที่สามารถไปร้านอาหาร สังสรรค์ พบปะเพื่อนฝูง และอาจมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น จังหวัดในภาคอีสานที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 800 ราย ซึ่งสามารถตอบคำถามได้ด้วยตนเอง ว่าตัวเลขเหล่านี้หากผู้เดินทาง 10-20 คน หากสามารถควบคุมแยกกักในพื้นที่ที่เหมาะสม จะไม่เห็นตัวเลขที่กระจายไปยังชุมชน ครอบครัวและเพื่อนใกล้ชิด
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีการหารือด้วยความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มจำนวนขึ้น จึงได้นำเสนอปรับมาตรการ ทั้งมาตรการสาธารณสุข มาตรการทางสังคม โดยเฉพาะห้ามการเคลื่อนย้ายระหว่างจังหวัด โดยขอความร่วมมือการเวิร์กฟรอมโฮมขั้นสูงสุด โดยแพทย์หญิงอภิสมัย ย้ำว่าไม่ได้มีคำว่าล็อกดาวน์ สิ่งที่สาธารณสุขเสนอวันนี้เป็นเรื่องของการปรับมาตรการ โดยที่จะมีรายละเอียดว่ากิจการหรือกิจกรรมใดทำได้แค่ไหน รวมถึงพื้นที่ไหน จังหวัดไหน ยังไม่ได้มีการสรุป ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ต้องนำเสนอที่ประชุมชุดใหญ่เพื่อพิจารณาและอนุมัติในวันพรุ่งนี้ ก่อนทิ้งท้ายว่า มาตรการที่จะมีการเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ อาจจะมีข้อจำกัด ติดขัด ประชาชนหลายส่วนเกิดความไม่สะดวก จึงต้องขออภัยประชาชนซึ่งการปรับมาตรการที่เข้มข้น อาจมีความจำเป็น ขอบคุณทุกภาคส่วน มีความอดทนในวันนี้โดยขอแนะนำว่าหากอดทนในวันนี้ ในที่สุดจะชนะไปด้วยกัน
ศบค. เร่งเปิดจุดตรวจเชื้อเพิ่มขึ้น รถตรวจพระราชทานตรวจประจำ ธูปะเตมีย์-หัวหมาก เริ่ม 12 ก.ค. ขณะ ม.33 เริ่มพรุ่งนี้ ที่ศูนย์กีฬาเวสน์
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า ศปก.ศบค. ไม่ได้นิ่งนอนใจ กรณีประชาชนไปรอการตรวจจำนวนมาก โดยได้หารือซึ่งถือเป็นมาตรการเร่งด่วน เร่งเปิดจุดตรวจหาเชื้อให้ประชาชนเข้าถึงให้มากที่สุด โดยในวันที่ 12 ก.ค. นี้ จะมีรถตรวจพระราชทานตรวจประจำที่สนามกีฬาธูปะเตมีย์และสนามกีฬาหัวหมาก และวันนี้ มีการหารือเพิ่มจุดตรวจกองทุนประกันสังคมตามมาตรา 33 โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือร่วมกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เห็นชอบให้เปิดจุดตรวจประกันสังคมที่ศูนย์กีฬาเวสน์ ซึ่งจะเปิดในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค. 64) หากพบว่ามีการติดเชื้อจะนำเข้าสู่กระบวนการรักษา แต่หากไม่มีการติดเชื้อ ก็จะมีการจัดสรรให้มีการฉีดวัคซีนให้มากขึ้น
นอกจากนี้ในที่ประชุมจะมีการหารือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะมีการทบทวนตรวจสอบมาตรฐานหากเป็นแหล่งที่มีการจดทะเบียนผ่านมาตรฐานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเปิดให้ประชาชนเข้าไปตรวจ เพื่อช่วยระดมตรวจให้มากขึ้นก็จะค้นเจอผู้ป่วยที่มากขึ้นซึ่งอาจเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้
ศบค. เร่ง กทม.จัดตั้งระบบ Home Isolation -ศูนย์พักคอย ปรับแนวทางฉีดวัคซีนเน้นแคมป์คนงานก่อสร้าง
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า ขณะนี้ กรุงเทพฯมีคลัสเตอร์ทั้งสิ้น 121 คลัสเตอร์ โดยที่ประชุมมีการกำชับเร่งรัดจัดตั้งระบบ Home Isolation หรือ การแยกกักอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยศูนย์บริการสาธารณสุขหรือสำนักงานเขต กทม. เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งมี 69 แห่งรอบกรุงเทพฯ ร่วมกับคลินิกอบอุ่น 201 แห่ง รวม 270 จุด ทั้งนี้ คนที่ดูแลที่บ้านจะต้องมีความปลอดภัย และจะมีข้อจำกัดเช่น บางรายเป็นกลุ่มสุขภาพสีเขียว ซึ่งจะมีการดูแลอาการที่บ้านและจ่ายยา ให้เหมาะสม ซึ่งการกักตัวที่บ้าน จะมีการเร่งรัด ภายใน 1-2 วัน
นอกจากนี้ จะมีการเร่งรัดการจัดตั้งจัดตั้งศูนย์พักคอยและส่งต่อหรือโรงพยาบาลสนามในชุมชน ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชน มาตรฐานที่เคยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามบางจุดต้องใช้เวลา บางที่ เป็นสถานที่ใหญ่เกิน 100 เตียง สำหรับการดูแลแยกกักที่บ้านและแยกกักชุมชน จะใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการสีขาวหรือสีเขียวอ่อน ส่วนสีเขียวเข้มอาจจะต้องเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม ขณะที่ผู้ป่วยมีอาการสีเหลืองอ่อน จะต้องเข้าสู่ระบบ ไอซียูสนาม ซึ่งอยู่ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 โรงพยาบาลราชพิพัฒน์และโรงพยาบาลบางขุนเทียน ซึ่งวันที่ 10 ก.ค. จะมีการเปิดขยายให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า ขณะนี้มีการหารือเรื่องการฉีดวัคซีนโดยเน้นไปที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ที่กำลังปิดอยู่ ซึ่งหากมีมาตรการลดการติดเชื้อได้ ก็จะมีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news