Home
|
ทั่วไป

ศบค.คุมเข้ม10จังหวัดห้ามออกบ้าน3ทุ่ม-ตี4เริ่ม12ก.ค.

Featured Image
ศบค. เห็นชอบขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน พร้อมยกระดับมาตรการพื้นที่ควบคุมเข้มงวด 10 จังหวัด ห้ามออกบ้าน 3ทุ่ม – ตี4 เริ่ม 12 ก.ค.นี้

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุม กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้น่าเป็นห่วงมีผู้ใช้เครื่องช่วยหายใจจำนวนมากเช่นเดียวกับมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นและมีการแพร่ระบาดด้วยเชื้อสายพันธุ์เดลตาและการเดินทางกลับภูมิลำเนาในกลุ่มของแรงงาน จึงทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการเข้มงวดมาตรการมากขึ้น โดยที่ประชุม ศบค. เห็นชอบขยายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่ออีก 2 เดือน คือ เดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 และจะนำเข้าที่ประชุม ครม. ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้

มีการยกระดับมาตรการควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา บังคับใช้เฉพาะ 6 จังหวัดที่มีสีแดงเข้มหรือเข้มงวดสูงสุด ทำงานที่บ้านให้มากที่สุด โดยมติที่ประชุม มีสาระสำคัญ

การปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

1. จำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด

  • กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนใช้การปฏิบัติงานในลักษณะ Work From Home ให้มากที่สุด โดยไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่สำคัญ และการบริการประชาชน
  • ระบบขนส่งสาธารณะ เปิดให้บริการ  03.00 – 21.00 น.
  • ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดเวลา 20.00 – 04.00 น.
  • ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่มธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน ทั้งนี้เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.
  • ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ห้ามบริโภคอาหารหรือสุราหรือเครื่องดื่มในร้าน โดยเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.
  • ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม

 

การปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
  • สวนสาธารณะ สามารถปิดให้บริการสำหรับการออกกำลังกายได้ถึงเวลา 20.00 น.
  • ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคม ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ หรือกิจกรรมตามประเพณีร่วมกันเกิน 5 คน

2. ให้บุคคลงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 21.00 ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นเว้นแต่มีความจำเป็นยิ่ง หรือได้รับอนุญาตเป็นรายกรณี
3. การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดของ ศบค. ที่ได้มีประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้
4. กำกับดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (DMHTTA) อย่างสูงสุด
5. ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และชุดลาดตระเวน เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติ อย่างเข้มงวดทั้งนี้ผู้ใดฝ้าฝืนให้มีบทลงโทษตามแห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
6. ให้เริ่มดำเนินการตามข้อ 1-4 ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 64 เป็นต้นไป

 

จำกัดการเดินทางให้มากที่สุด เฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยกเว้นกรณีการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่อนุญาตเคลื่อนย้าย หรือมีเหตุจำเป็น กรณีต้องเดินทางไปทำงาน ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาอย่างเร็วที่สุด

ทั้งนี้มาตรการการเดินทางข้ามจังหวัดมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube