ศบค. ย้ำ ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว เฉพาะ 10 จังหวัดแดงเข้ม งดออกจากบ้าน 3 ทุ่ม-ตี4 ฝ่าฝืนมีความผิด เยียวยา รอ ศบศ.เสนอต่อ ครม.
นายแพทย์ทวีศิลป์วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวถึงมาตรการ ล็อกดาวน์ และเคอร์ฟิว ที่ได้มีการประกาศออกมา โดยเน้นย้ำในเรื่องของ การห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิวจะใช้ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 10 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรีสมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยห้ามออกนอกเคหสถานคือเวลา 21.00 น. ถึง 04:00 น. ต่อเนื่อง 14 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 11กรกฎาคม เริ่มต้นวันใหม่ของวันที่12 กรกฎาคม ใครที่ฝ่าฝืนข้อนี้ย่อมมีความผิดและต้องระวางโทษตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยาสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดนี้ศบค.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรับผิดชอบในเรื่องนี้คือศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจาก โควิด-19 (ศบศ.)เตรียมนำเสนอข้อมูลเพื่อเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับอีก 1 ข้อที่สำคัญ คือ มาตรการเพื่อมิให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน การนำเสนอข่าวที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดการเข้าใจผิด จนกระทั่งมีผลต่อความมั่นคงของรัฐบาลและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนทั่วราชอาณาจักรนั้นถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา9(3) แห่งพระราชกำหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ 2548 จึงขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนเพราะขณะนี้มีข้อมูลที่เป็นข่าวเท็จจำนวนมาก และศบค.เน้นย้ำว่านอกจากการทำงานที่ต้องเดินไปข้างหน้าแล้วการมีข่าวที่เป็นเท็จและต้องมาทำให้เสียเวลาในการมาแก้ข่าว จึงอาจทำให้งานต่างๆที่ต้องเดินไปข้างหน้าอาจมีความล่าช้า
- ศบค.คุมเข้ม10จังหวัดห้ามออกบ้าน3ทุ่ม-ตี4เริ่ม12ก.ค.
- สรุปมาตรการล่าสุดจาก ศบค. ล็อกไม่ล็อก มีรายละเอียดอะไรบ้าง เช็คเลย
นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึง การเดินทางข้ามจังหวัดใน 10 จังหวัดที่เข้มงวดสูงสุดคือ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เพื่อเดินทางเข้ามารับวัคซีนในกรุงเทพฯ จะสามารถมาได้หรือไม่ ว่า หากเดินทางมาเพื่อการสาธารณสุขหรือมาฉีดวัคซีนก็สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ และได้แจ้งไปยังฝ่ายความมั่นคงที่เป็นผู้ตรวจสอบ หากประชาชนมีความจำเป็นก็สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้เลย ซึ่งปกติแล้วจะมีใบนัด ล่วงหน้า ส่วนกรณีที่จำเป็นจะต้องมีหนังสือข้ามจังหวัด จากทางบริษัทของตนเองหรือไม่นั้น ในกรณีที่ต้องการไปฉีดวัคซีนในจังหวัดอื่น ถือว่าเป็นเหตุผลที่เหมาะสมในการข้ามจังหวัดได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีหนังสือ เพราะมีเหตุผลเพียงพอในการที่จะ ดำเนินการด้านสาธารณสุขอยู่แล้ว แต่ถ้าหากมีใบรับรอง จากบริษัทหรือ ผู้นำชุมชน ก็จะดียิ่งขึ้น
สำหรับคลินิกเสริมความงามที่ดำเนินการ เสริมความงามบริเวณใบหน้า เข้าข่ายเช่นเดียวกับ มาตรการปิดให้บริการของ สปานวดแผนไทย สถานเสริมความงาม หรือไม่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า เข้าข่ายการควบคุมโรคเช่นกัน เพื่อลดความเสี่ยง ในการสัมผัสใกล้ชิดบริเวณใบหน้า
สำหรับชุดข้อมูลมาตรการครั้งนี้ ศบค.ได้มอบหมายให้ ประชาสัมพันธ์ของแต่ละจังหวัด เป็นผู้ที่จะนำชุดข้อมูลต่างๆสื่อสารกับประชาชนเพื่อให้ได้ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเพราะบางข้อใช้เพียง 10 จังหวัดบางข้อใช้ทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการได้ดำเนินการจัดการมาตรการล็อกดาวน์เป็นจุดไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควบคุมโรคคือการ ควบคุมคน และการควบคุมป้องกันโรคจะสำเร็จได้นอกจาก มาตรการของรัฐแล้ว ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการและภาคประชาชน ที่จะให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news