“สาธิต” แนะ 3 แนวทาง เร่งตรวจ-รู้ติด-หาเตียง ชี้ปลดล็อก Rapid Antigen test ตรวจเองที่บ้าน จะช่วยทราบติดเชื้อเร็วขึ้น วอนช่วยกันสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจอย่างชัดเจน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์ฉุกเฉินของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ขอให้ทุกส่วนงาน ปรับการทำงานให้คล่องตัวและยืดหยุ่น พร้อมเสนอให้เป็นระบบ และสื่อสารกับประชาชนถึงแนวทางแก้ไขปัญหา
คือ 1. “เร่งตรวจ” เพราะจากการปลดล็อกการตรวจแบบ Rapid Antigen test (ย้ำว่า Antigen) ให้สามารถตรวจได้เอง หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านที่กำลังจะกำหนดนั้น จะสามารถทำให้รู้สถานะ และรีบกักตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึง จัดตั้งชุด เฉพาะกิจขึ้น เพื่อตรวจเชิงรุก ในชุมชน หาผู้ติดเชื้อโดยใช้ Rapid Antigen Test เช่นเดียวกัน
2. “รู้ติด” เมื่อรู้สถานะแล้ว จะสามารถประเมินความรุนแรงของโรค หากไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย จะใช้วิธีการกักตัวที่บ้าน สังเกตอาการ คัดกรองกลุ่มที่ผลเป็นบวก มาตรวจซ้ำ โดยมีโรงพยาบาลเป็นผู้รับผิดชอบดูแล และผันเตียงให้กับเคสที่หนักมากขึ้น
3. “หาเตียง” ในกรณีที่เป็นเคสที่ต้องการเตียง จะมีการผันเตียง โดยมีโครงการรักษาตัวที่บ้านผ่านการดูแลของ ร.พ. (Home Isolation) รวมถึงการขยายเตียงรับสำหรับเคสที่หนัก ยืนยัน ตนได้ประสานภาคประชาสังคมและเอกชนที่คอยช่วยเหลือกันตลอดมา โดยจะทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์นี้
ทั้งนี้ บางเรื่องอาจไม่สมบูรณ์ 100 % แต่ความเร็วเพื่อรักษาชีวิต จะเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง และข้อย้ำว่าสิ่งที่ปรับการทำงาน เป็นเพียงเฉพาะกิจในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้เท่านั้น เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น คงต้องมาพิจารณาปรับอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัว มองว่า การสื่อสารช่วงนี้สำคัญมาก ได้เน้นย้ำถึงการดำเนินมาตรการที่เข้มข้นเพื่อช่วยชีวิตประชาชนโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องการสละไม่รับเงินเดือน 3 เดือน ตนยินดี แต่ต้องคิดให้ดีว่า เงินเหล่านั้น ควรจะไปช่วยเหลือประชาชนในปัจจุบันได้อย่างไร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ดังนั้น ช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญ จึงขอให้ทุกคนช่วยกันสื่อสาร เรื่องมาตรการต่างๆ อย่างชัดเจนต่อประชาชนก่อน เพื่อจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และสามารถนำไปวางแผนในชีวิตประจำวันต่อไปได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news