Home
|
ทั่วไป

สธ.จ่อปรับฉีดวัคซีนไขว้ชนิดปัดบังคับ-ไฟเซอร์20ล.มาต.ค.

Featured Image
สธ. จ่อปรับการฉีดวัคซีนไขว้ 2 ชนิด ยันไม่ได้บังคับ -ไฟเซอร์ 20 ล.โดส คาดเข้าไทย ต.ค. นี้ เน้นฉีดเด็ก คนแก่ คนมีโรคและหมอ

นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 19 ก.ค. 64 ผ่านทางเฟซบุ๊ก ไลฟ์ ของกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ทวีทรัพย์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ประเทศไทยมีวัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดสรรให้ประชาชนฉีดฟรี จำนวน 3 ยี่ห้อ ได้แก่ วัคซีนแอสตราเซเนกา วัคซีนซิโนแวค และวัคซีนไฟเซอร์ ส่วนอีก 2 ยี่ห้อที่กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการเจรจา คือ วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และวัคซีนสปุตนิก เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตพบปัญหาการผลิตวัคซีนจากทางโรงงาน

นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส ที่กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งจองไปนั้น คาดว่าจะสามารถนำเข้ามาภายในประเทศไทยได้ในช่วงไตรมาส 4 หรือหลังเดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยกลุ่มแรกที่จะได้รับการฉีด คือ ประชาชนในกลุ่มเสี่ยง 7 โรค เด็ก ผู้สูงอายุ และบุคลากรทางการแพทย์ หลังจากนั้นจะพิจารณในส่วนของประชาชนทั่วไปและกลุ่มที่จะได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีที่มีหญิงมีครรภ์ ชะลอการฉีดวันซีนยี่ห้ออื่น เพื่อรอฉีดวัคซีนไฟเซอร์นั้น ส่วนตัวมีความเห็นว่าควรรีบฉีดวัคซีนที่มีอยู่ก่อนภายในประเทศเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในช่วงที่มีการแพร่ระบาดในขณะนี้ และหากวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาในประเทศแล้ว ก็สามารถฉีดเป็นเข็มที่ 3 ในส่วนของวัคซีนทางเลือกได้ต่อไป

นอกจากนี้กรณีการฉีดวัคซีนซีโนแวค ในเข็มที่ 1 และฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ในเข็มที่ 2 นั้น ทาง นพ.ทวีทรัพย์ ยืนยันว่าสูตรนี้สามรถฉีดได้กับทุกกลุ่มทั้งเด็ก ผู้สูงอายุและ สตรีตั้งครรภ์ไม่มีผลเสียและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ โดย ฉีดเข็มแรกห่างจากเข็มที่สองอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ และยืนยันว่าสูตรนี้ไม่ได้เป็นการบังคับฉีด ซึ่งในส่วนของแผนงานเดิมทั้งการฉีดวัคซีนซีโนแวค หรือ แอสตราเซเนกา ใน 2 เข็มยังคงมีอยู่
ดังนั้นสูตรนี้จึงเป็นเพียงการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนเท่านั้น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube