ผู้บริหารแอสตราฯเขียนจม.แจงคนไทย ยัน เร่งผลิต ส่งมอบวัคซีนให้เร็วที่สุด ส่งมอบแล้ว 9 ล้านโดส สัปดาห์หน้าส่งอีก 2.3 ล้านโดส
นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนพี่น้องชาวไทย โดยมีรายละเอียดังนี้ “ขณะที่ทั่วประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในฐานะตัวแทนของแอสตราเซเนกาในประเทศไทย ขอใช้โอกาสนี้เรียนให้ทุกท่านทราบถึงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เพื่อช่วยเหลือทุกท่านและยังยั้งการแพร่ระบาดนี้
พวกเราทุกคนที่แอสตราเซเนกา มีความกังวลและเป็นห่วงกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา เราได้มีการหารือกับกรมควบคุมโรคมาโดยตลอดเกี่ยวกับผลกระทบจากการกลายพันธุ์ของไวรัส และแนวทางที่แอสตราเซเนกาจะสามารถช่วยสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ผมขอยืนยันกับทุกคนว่า สิ่งที่แอสตราเซเนกาให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในขณะนี้ คือ การเร่งผลิตและส่งมอบวัคซีนที่มีคุณภาพเพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรักให้ได้โดยเร็วที่สุดเราจะพยายามอย่างสุดความสามารถ
วัคซีนของแอสตราเซเนกา เป็น “ชีววัตถุ” ที่เริ่มต้นด้วยการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิต จึงมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน จำนวนเซลล์ที่สามารถนำไปใช้เพื่อการผลิตวัคซีนในแต่ละรอบการผลิตจึงมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตระยะแรกจากศูนย์การผลิตวัคซีนแห่งใหม่ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่เราคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดสรรวัคซีนให้กับประเทศไทยได้โดยเฉลี่ย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน
จนถึงขณะนี้ แอสตราเซเนกาได้ส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 9 ล้านโดส และมีกำหนดส่งมอบอีก 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า รวมเป็นยอดส่งมอบ 11.3 ล้านโดส ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า เราพยายามอย่างสุดความสามารถและเสาะหาทุกวิถีทางที่จะเร่งการผลิตและส่งมอบวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากนี้ เรายังได้พยายามจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากศูนย์การผลิตของแอสตราเซเนกาทั่วโลกกว่า 20 แห่ง เพื่อส่งมอบวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะขาดแคลนวัคซีนป้องกันโควิด-19 การขาดแคลนวัตถุดิบ และส่วนประกอบที่จำเป็นในการผลิตวัคซีนส่งผลให้เราไม่สามารถคาดการณ์จำนวนการผลิตที่แน่นอนได้ แต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมมาให้กับคนไทยได้ในเดือนต่อๆ ไป
นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คนไทยทั้งประเทศได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่แข็งแกร่ง และความมีน้ำใจ พร้อมที่จะยื่นมือช่วยเหลือกันในยามยาก จากผลสำรวจที่ระบุว่า กว่า 1 ใน 3 ของคนไทย รวมถึงพนักงานของเราในประเทศไทยได้ร่วมบริจาคเงิน อาหาร หรือสิ่งของเพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในช่วงการระบาด ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยทั้งในชุมชนและในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ การจะผ่านพ้นมหาวิกฤตโควิด-19 ได้นั้น เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจฝ่าวิกฤตครั้งไปด้วยกันไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทยแต่รวมถึงทุกประเทศทั่วโลกด้วย
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ประเทศบ้านพี่เมืองน้อง ของเราทั่วอาเซียนก็มีการประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง พร้อมกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ข้อมูลจากการใช้วัคซีนล่าสุดจากประเทศแคนาดาแสดงให้เห็นว่า วัคซีนป้องกันโควิด -19 ของแอสตราเซเนกา 1 เข็ม มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อรุนแรงในระดับที่ต้องเข้านอนรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้มากถึง 87% ดังนั้น วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านพวกเราทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในทุกที่ เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปอย่างไร้พรมแดน ดังนั้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านยังคงทวีความรุนแรงก็ถือเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยด้วยเช่นกัน หนทางเดียวที่จะยุติการแพร่ระบาดนี้ได้คือ ความร่วมมือร่วมใจกันของพวกเราทุกคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news