สธ. จัดระบบ พาผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวกลับภูมิลำเนา จองคิวผ่านแอปฯ จัด รถไฟ-เครื่องบิน-รถทัวร์ บริการฟรี
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการนโยบายในการจัดส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับรักษาตัวในภูมิลำเนา ตามความต้องการ ว่า ในช่วงก่อนประกาศล็อกดาวน์ มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยตนเองไปแล้วกว่า 5 แสนคน และในจำนวนนั้น คาดว่าน่าจะมีผู้ป่วยโควิดเดินทางกลับไปด้วย ทำให้ไปแพร่กระจายยังจังหวัดต่างๆ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ,สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ , กระทรวงคมนาคม,กระทรวงมหาดไทย ,กองทัพบก ในการจัดส่งผู้ติดเชื้อโควิดในกลุ่มสีเขียว เพื่อให้เดินทางกลับไปรักษาตัว ที่ภูมิลำเนาของตนเอง ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
สำหรับผู้ป่วยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ หรือ แสกน QR Code เพื่อกรอกรายละเอียด ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน สถานที่ปลายทาง วันเวลาที่สะดวกจะเดินทาง หรือสามารถโทรได้ที่สายด่วน 1330 กด 15 จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่อง โดยขั้นตอนทั้งหมดหลังรับเรื่องแล้ว ผู้ป่วยจะสามารถเดินทางได้ภายใน 3 วัน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อโควิดในกลุ่มสีเขียวจำนวนกว่า 3.1 หมื่นคน เดินทางกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ คณะรัฐมนตรี ดูแลรับผิดชอบอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนในการเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา ด้วย
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. หลังจาก สปสช. ได้รับข้อมูลจากผู้ป่วยแล้ว จะมีการประสานงานไปยังปลายทาง เพื่อแจ้งว่าจะมีผ็ป่วยโควิด เดินทางกลับมารักษาตัว ให้เตรียมสถานที่รองรับ โดยจะส่งข้อมูลตัวเลขของผู้ที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับบ้าน ส่งให้กระทรวงสาธารณสุข ทุกวันในเวลา 08.00 น.
รอ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. ระบุว่า ในการเดินทางของผู้ป่วย สพฉ. จะเป็นผู้ดูลับผิดชอบ ในการประสานส่งต่อ โดยทางรถไฟ รถโดยสาร หรือ เครื่องบิน ซึ่งต้องมีการตรวจสุขภาพและความพร้อมของผ็ป่วยด้วยว่า พร้อมที่จะเดินทางระยะไกลหรือไม่ ซึ่งในการเดินทางจะมีบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางไปด้วย เพื่อช่วยดูแลผู้ป่วยให้เดินทางอย่างปลอดภัย พร้อมย้ำว่าการบริการทั้งหมด ไม่มีค่าใช้จ่าย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news