ศบค. เผย กรุงเทพฯ ยังมีผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุด รองลงมาคือ สมุทรสาคร ขณะ รับ วัคซีน สะสม ทั้งหมด 15,869,844 โดส
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดประจำวันอาทิตย์ ที่ 25 กรกฎาคม 2564 หากพบประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 47 ของโลก พบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 15,335 ราย
ติดเชื้อในประเทศ 14,675 รายติดเชื้อจากต่างประเทศ 19 ราย จากเรือนจำหรือสถานที่ต้องขัง 641 ราย รวมยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 497,302 ราย รักษาตัวอยู่ 158,550 ราย
แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 91,049 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนาม 67,501 ราย อาการหนัก 4,151 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 961 ราย รักษาตัวหาย 6,904 ราย
เสียชีวิตเพิ่ม 129 คน รวมเสียชีวิตสะสม 4,059 คนคิดเป็นร้อยละ 0.82
ขณะที่ รายงานสรุปผลการฉีดวัคซีนถึง วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 18.00 น. มีผู้ฉีดวัคซีนสะสม 15,869,844 โดส ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 12,226,845 ราย ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 3,642,999 ราย
โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 15,335 ราย แบ่งเป็นในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 6,069 ราย 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 805 ราย จังหวัดอื่น 7,801ราย และในสถานที่ต้องขังเรือนจำ 641 ราย
ส่วนผู้เสียชีวิต จำนวน 129 คนแบ่งเป็นชาย 70 ราย และหญิง 59 ราย
ค่ากลางอายุ 66 ปี (อายุระหว่าง 28-94 ปี) เป็นสัญชาติไทย 124 ราย เมียนมา 3 ราย จีน 1 ราย และญี่ปุ่น 1 ราย
พบการเสียชีวิตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 66 ราย สมุทรปราการ 7 ราย ปทุมธานี 6 ราย
ปัตตานี 5 ราย นราธิวาส 3 ราย ยะลา 1 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย ภูเก็ต 1 ราย
ตาก 6 ราย กำแพงเพชร 2 รายเชียงใหม่ 1 ราย เชียงราย 1 ราย อุตรดิตถ์ 1 ราย
สุพรรณบุรี 5 ราย สิงห์บุรี 2 ราย นครนายก 2 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย
ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย ชลบุรี 1 ราย ตราด 1 ราย ระยอง 1 ราย สระแก้ว 1 ราย
อุบลราชธานี 3 ราย กาฬสินธุ์ 2 ราย นครราชสีมา 1 รายมหาสารคาม 1 ราย ร้อยเอ็ด 1 ราย
หนองคาย 1 ราย ยโสธร 1 ราย อำนาจเจริญ 1 ราย และอุดรธานี 1 ราย
ซึ่งการเสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคปอด และยังมี หญิงตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์ และผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวเสียชีวิตด้วย
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ จำนวน 10 อันดับแรก ได้แก่
กรุงเทพฯ 2,700 ราย สมุทรสาคร 1,081 ราย สมุทรปราการ 1,056 ราย
ชลบุรี 795 ราย นนทบุรี 558 ราย ฉะเชิงเทรา 571 ราย
พระนครศรีอยุธยา 379 ราย ปทุมธานี 339 ราย ระยอง 322 ราย และ นครปฐม 308 ราย
ทั้งนี้ ยังมีการรายงานคลัสเตอร์ใหม่ ที่ต้องเฝ้าระวัง ที่กรุงเทพฯ เขตกระทุ่มแบน ซึ่งเป็นโรงงานอุปกรณ์สแตนเลส พบผู้ติดเชื้อ 127 ราย
จ.ชลบุรี ที่ อ.พนัสนิคม เป็นโรงงานแปรรูปไก่ พบผู้ติดเชื้อ 11 ราย
จ.นนทบุรี ที่ อ.ปากเกร็ด ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์บ้านเฟื่องฟ้า พบผู้ติดเชื้อ 8 ราย และ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ อ.แปลงยาว ซึ่งเป็นบริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ พบผู้ติดเชื้อ 21 ราย
สรุปสถิติการบังคับใช้กฎหมายการห้ามออกเคหสถาน ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
พบว่าการเรียกตรวจยานพาหนะ ที่จุดตรวจเคอร์ฟิวยานพาหนะ 81,555 บุคคล 111,595 ในจุดตรวจ รอยต่อระหว่างจังหวัดยานพาหนะ 28,567 บุคคล 39,797 แสดงเอกสารรับรอง 15,198 ใช้คิวอาร์โค้ดหยุดเชื้อเพื่อชาติ 2757 แนะนำตักเตือนลงแอพ Covid control 13,903
ส่วนฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ ในด่าน 24,636 โดยมีเหตุจำเป็น 23,550 ออกนอกเคหสถาน 209 ดื่มสุรา 30 เสพยา 35 และอื่นๆ 38
ส่วนนอกด่าน 660 ออกนอกเคหสถาน 297 ดื่มสุรา 38 มั่วสุม 26 เสพยา 171 เล่นการพนัน 67 และอื่นๆ 61
นอกจากนี้ สรุปสถิติการบังคับใช้กฎหมายของพื้นที่กรุงเทพมหานคร การปฏิบัติในกรุงเทพมหานครจุดตรวจ 88 จุด สายตรวจ 88 ชุด ฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ ฝ่าฝืนทั้งหมด 183 ในด่าน 111 นอกด่าน 72
ส่วนประเภท/ อันดับการกระทำผิด ในด่าน ออกนอกเคหสถาน 91 เสพยาเสพติด 11 แข่งรถ 0 ดื่มสุรา 9 เล่นการพนัน 0
และนอกจากด่าน คือ เสพยา 28 ออกนอกเคหสถาน 25 มั่วสุมทางเพศ 6 เล่นการพนัน 9 ดื่มสุรา 1 และอื่นๆ 3
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
