ศบค.แถลง ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 17,345 ราย สะสม 578,375 ตายอีก 117 ราย – พบผู้ติดเชื้อต่างจังหวัดสูง57% แล้ว จากแรงงานกลับภูมิลำเนา ภาคอีสานมากสุด ขณะ กทม.ปริมณฑล 43%
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยตัวเลขสถานการณ์ประจำวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2564 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 44 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 17,345 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 16,664 ราย ผู้ป่วยในเรือนจำ 681 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 578,375 ราย รักษาอยู่ 192,526 ราย รักษาในโรงพยาบาล 74,232 ราย และโรงพยาบาลสนาม 118,294 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,595 ราย และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 1,012 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 381,170 ราย หายเพิ่ม 10,678 ราย เสียชีวิตใหม่ 117 ราย รวมเสียชีวิต 4,679 คน
โดยผู้เสียชีวิตรายใหม่เป็นผู้ป่วยชาย 62 ราย ผู้ป่วยหญิง 55 ราย เป็นชาวไทย 112 ราย และเมียนมา 5 ราย ค่ากลางอายุผู้ป่วย 67 ปี อายุระหว่าง 33-92 ปี ค่ากลางตั้งแต่วันทราบผลจนเสียชีวิต 8 วัน นานสุด 29 วัน พบเสียชีวิตที่บ้าน 9 ราย แบ่งเป็นแบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 8 ราย และปทุมธานี 1 ราย แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 55 ราย, สมุทรปราการ 9 ราย, สมุทรสาคร 8 ราย, นราธิวาส 7 ราย, ปทุมธานี 6 ราย, นครปฐมและปัตตานี จังหวัดละ 4 ราย, กาฬสินธุ์, สุโขทัย, นครสวรรค์ และตาก จังหวัดละ 2 ราย, ระนอง, สงขลา, ตรัง, นครพนม, อุดรธานี, สกลนคร, กำแพงเพชร, พิษณุโลก, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย
ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 16,650 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 8 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุก/โรงงานและในชุมชน 3,833 รายค้นหาเชิงรุกในเรือนจำ 681 ราย และเข้าระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 12,823 ราย
พบผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ราย รวมสะสม ราย, จังหวัดอื่นรวม 67 จังหวัด ราย รวมสะสม ราย และ 4 จังหวัดภาคใต้ ราย รวมสะสม ราย
ด้าน ยอดการฉีดวัคซีนในประเทศไทยรวม 17,011,477 โดส สะสมแบ่งเป็นฉีดวัคซีนเข็มแรก 13,225,233 โดส เพิ่มขึ้น 366,663 โดส และเข็มที่สองจำนวน 3,786,244 โดส เพิ่มขึ้น 53,485 โดส
ศบค.พบจำนวนผู้ติดเชื้อต่างจังหวัดสูง 57% แล้ว ขณะ กทม.ปริมณฑล 43% ภาคอีสานมากสุด เตรียมปรับรูปแบบแถลงข่าว เน้นโซเชียลมากขึ้น
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างจังหวัด เริ่มมีปริมาณสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จากการที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานกลับไปยังภูมิลำเนา คิดเป็นร้อยละ 57 ซึ่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีการติดเชื้ออยู่ที่ ร้อยละ 43 ซึ่งหากดูจากรายงานตามเขตสุขภาพสาธารณสุข พบว่า การติดเชื้อนำเข้าจากการเดินทางกลับภูมิลำเนา ในพื้นที่เขตสาธารณสุขเขต 7 และเขต 8 ในพื้นที่ภาคอีสานจะพบการติดเชื้อจำนวนมาก เช่นจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น, เขต 8 อุดรธานี จังหวัดสกลนคร นครพนม หนองบัวลำภู เลย หนองคาย บึงกาฬ, เขต 9 จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ, เขต 10 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร แต่ในพื้นที่นครราชสีมาเกิดคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้น จึงเป็นการติดเชื้อภายในจังหวัด ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นการติดเชื้อในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่
โดยที่ประชุม ศปก.ศบค. มีการประชุมแบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ โดยทางผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า ขณะนี้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของทั้งประเทศ ที่ต้องหยุดชะงักไปทั้งหมดในระดับของภาคธุรกิจต่างๆ แต่เครื่องยนต์ที่ยังสามารถขับเคลื่อนได้ทางเศรษฐกิจอยู่ตอนนี้คือการส่งออก หลายโรงงานที่ยังเดินเครื่องจักรได้ ต้องรักษาระบบการผลิตนี้ตรงไว้ โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมนำเสนอข้อมูล ตั้งแต่ 1 เม.ย.- 29 ก.ค.64 พบมีการแพร่ระบาดในโรงงาน 518 แห่ง มีผู้ติดเชื้อ 36,861 คน ครอบคลุมพื้นที่ 49 จังหวัด โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีระบบการตรวจสอบ และดูแลมาตรการต่างๆซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ออกแบบประเมินตนเองผ่านออนไลน์ Thai Stop covid Plus ซึ่งมีการประเมินแล้วผ่านระบบออนไลน์ 18,005 แห่ง หรือคิดเป็น ร้อยละ 28 ระบบออนไซส์ 955 โรง ครบ 100%
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news