ศบค. เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดเป็น 29 จังหวัด ล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว เปิดแคมป์ได้ มีผล 3-18 สค. ขอความร่วมมือ WFH 100% ให้ร้านอาหารเปิดบริการแบบเดลิเวอรีเท่านั้น
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงผลการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุม ว่า
วันนี้ได้มีการหารือถึงการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 โดยยกระดับปรับพื้นที่โซนสีทั่วราชอาณาจักร ที่จำเป็นต้องมีการพิจารณาสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเวลา 1-2 เดือนนี้ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. เน้นย้ำเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการกำหนดมาตรการต่างๆรวมทั้งการพยายามขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ก็จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดสามารถผ่านพ้นไปในทิศทางที่ดี เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง
ซึ่งทางกรมควบคุมโรค ได้เน้นย้ำว่า การฉีดวัคซีนจะต้องเน้นไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนแล้วก็จะต้องมีการป้องกันโรคส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ การปรับมาตรการ การควบคุม การติดเชื้อโควิด 19 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดและสิ่งสำคัญคือลดการเสียชีวิต และลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนักให้อยู่ในระดับที่ ระบบสาธารณสุขสามารถรองรับได้
โดยที่ประชุม ศบค. มติขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จากเดิม 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง
ขณะที่พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จาก 53 เหลือ 37 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีษะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ
ส่วนพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 10 จังหวัด เป็น 11 จัวหวัด ดังนี้ จ.กระบี่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน และสุราษฎร์ธานี
อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำลดการเดินทาง เคลื่อนย้ายของประชาชน และรวมทั้งการลดการทำกิจกรรมและกิจการ ที่นำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาด โดยคำนึงถึงเดือดร้อนของประชาชนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การแพร่ระบาดในปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของมาตรการทำงานที่บ้านหรือ Work from home ในส่วนของพื้นที่สีแดง นั้น ขอให้ work from home ขั้นสูงสุด หรือ 100% ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน
ขณะที่ ร้านสะดวกซื้อตลาดโต้รุ่ง เป็นไปตามข้อกำหนดเดิม คือ ให้ปิดบริการในเวลา 20.00 -04.00 น. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า Community Mall สามารถเปิดได้ เฉพาะ Supermarket และในส่วนของ สถานที่จำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. ส่วนร้านอาหารอนุญาตให้เปิดบริการแบบเดลิเวอรี่เท่านั้น โดยห้างสรรพสินค้ายังสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3-18 ส.ค. 64 ซึ่งจะมีการประเมินในช่วง 2 สัปดาห์ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นหรือค่อนข้างน่าเป็นห่วงก็ยืดได้จนถึงวันที่ 31 ส.ค. 64
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news