Home
|
ทั่วไป

กทม. ปรับจุดตรวจโควิด 6 เขต -เริ่ม 7 ส.ค.

Featured Image
กทม. ปรับแผนจัดตั้ง 6 หน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุกโควิด-19 หลัก ให้บริการต่อเนื่อง ตั้งแต่ 7 ส.ค. 64 เป็นต้นไป

(6 ส.ค.64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการปรับแผนจัดตั้งจุดให้บริการตรวจคัดกรองเชิงรุกโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกประชาชน และลดความสับสนในการเข้ารับบริการคัดกรองเชิงรุก กรุงเทพมหานครจะปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองเชิงรุกโควิด-19 ในพื้นที่

จากเดิมที่มีการออกหน่วยคัดกรองเชิงรุกกระจายหมุนเวียนให้บริการประชาชนตามจุดต่างๆ จะปรับการออกหน่วยให้บริการฯ โดยจะจัดตั้งเป็น 6 จุดคัดกรองหลัก ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต และจะให้บริการตั้งแต่วันพรุ่งนี้(7 ส.ค.64) เป็นต้นไป ประกอบด้วย

1.กลุ่มกรุงเทพกลาง ณ ลานกีฬาพัฒน์ 2 ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี ให้บริการ 500 คนต่อวัน จองคิววันต่อวันหน้าจุดตรวจตั้งแต่เวลา 06.30 น. โทร.0 2354 4212
2.กลุ่มกรุงเทพเหนือ ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ ให้บริการ 1,000 คนต่อวัน จองคิววันต่อวันหน้าจุดตรวจตั้งแต่เวลา 07.00 น. โทร.0 2982 2081-2
3.กลุ่มกรุงเทพตะวันออก ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เขตมีนบุรี ให้บริการ 700 คนต่อวัน จองคิววันต่อวันหน้าจุดตรวจตั้งแต่เวลา 06.00 น. โทร.0 2836 9999 ต่อ 3621,3622
4.กลุ่มกรุงเทพใต้ ณ ศูนย์สร้างสุขทุกวัย สวนลุมพินี เขตปทุมวัน ให้บริการ 500 คนต่อวัน จองคิวล่วงหน้า 1 วัน ผ่าน App “QueQ” ตั้งแต่เวลา 07.00 น. โทร.0 2214 1044
5.กลุ่มกรุงธนเหนือ ณ ใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด ให้บริการ 400 คนต่อวัน จองคิวล่วงหน้า 1 วัน ผ่าน App “QueQ” 200 คิว ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และจองคิววันต่อวันหน้าจุดตรวจ 200 คิว
ตั้งแต่เวลา 07.30 น. โทร.0 2424 0056 ต่อ 5657
6.กลุ่มกรุงธนใต้ ณ ตลาดบางแคภิรมย์ เขตบางแค ให้บริการ 600 คนต่อวัน จองคิววันต่อวันหน้าจุดตรวจ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. โทร.0 2415 0157

สำหรับรูปแบบการตรวจคัดกรองจะใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ซึ่งสามารถรู้ผลภายใน 30 นาที โดยได้รับการรับรองจากทางการแพทย์ว่ามีความแม่นยำมากกว่า 90% หากมีผลตรวจเป็นลบสามารถกลับบ้านได้เลย แต่หากมีผลเป็นบวก คือ ติดเชื้อ หรือมีอาการน่าสงสัยจะส่งเข้ากระบวนการตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ต่อ ณ จุดตรวจเดียวกัน พร้อมให้ฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ ตามดุลพินิจของแพทย์ ในกรณีที่อาการแย่ลงจะมีการประสานส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป

ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนต้องเตรียมมา ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา ปากกาหมึกสีน้ำเงิน และขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคล (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube