Home
|
ทั่วไป

ฉีดไฟเซอร์ให้แพทย์ด่านหน้าแล้ว5.7หมื่นคน

Featured Image
“หมอโสภณ” เผยส่ง วัคซีนไฟเซอร์ ไปแล้ว 170 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์แล้ว 57,000 คน

 

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดสรร วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส ว่า สำหรับการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5ล้านโดสนั้น กลุ่มแรกที่จะได้รับคือบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ทั่วประเทศ โดยเป็นการฉีดเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จำนวน 700,000 โดส ต่อมาคือกลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์

โดยจะเริ่มฉีดใน 13 จังหวัดควบคุมสูงสุด และเข้มงวดจำนวน 645,000 โด๊ส กลุ่มที่3 คือกลุ่ม ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย แต่ต้องเป็นผู้สูงอายุ ,7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งรวมถึงคนไทยที่จะเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศ จำนวน 150,000 โส และ กลุ่มสุดท้ายกลุ่มนักวิจัยโดยการอนุมัติของคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม จำนวน 5,000 โดส

 

โดยขณะนี้ได้กระจายวัคซีนไฟเตอร์ไปยังโรงพยาบาล 170 แห่งทั่วประเทศ และดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าแล้ว จำนวน 57,000 ราย เมื่อวันที่ 4 – 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งขอยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคน จะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ นพ.โสภณ ได้เปิดเผยข้อมูลของศูนย์ป้องกันควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา ที่ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลการเฝ้าระวังภาวะไม่พึงประสงค์ ภายหลังรับวัคซีน mRNA โดสที่ 2 ซึ่งห่างจากเข็มแรกประมาณ 1 สัปดาห์

พบว่า จากวัคซีน 300 ล้านโดส ที่ดำเนินการฉีดในสหรัฐอเมริกาพบจำนวน 1,226 ราย มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่พบในผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 ปีและมีอาการภายหลังรับวัคซีน 5 วัน แต่ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต อีกทั้งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมในสหรัฐอเมริกา

ส่วนในประเทศไทยนั้น ยืนยันว่า ยังไม่พบภาวะไม่พึงประสงค์ภายหลังรับวัคซีน mRNA ขณะนี้จึงจำเป็นต้อง รวบรวมข้อมูลจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์มาก่อนไว้ศึกษาและหาวิธีรักษาต่อไป

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube