Home
|
ทั่วไป

ศบค.แถลงเหลือแค่สุพรรณบุรีไม่พบสายพันธุ์เดลตา

Featured Image
ศบค.แถลง เหลือแค่สุพรรณบุรี จังหวัดเดียวไม่พบสายพันธุ์เดลตา ป่วยโควิดใหม่ 20,515 ราย สะสม 968,957 เสียชีวิตอีก 312 หายป่วย 753,119 ฉีดวัคซีนแล้ว 24.6 ล้านโดส

 

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ประจำวันพุธที่ 18 สิงหาคม 2564 ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 34 ของโลก ซึ่งสิ่งที่กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ รายงานการติดเชื้อในภูมิภาคนี้ รวมถึงในหลายประเทศทั่วโลก เป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า และเห็นได้ในประเทศไทย การแพร่เชื้อ สายพันธุ์เดลตา ครอบคลุมไปทั่วทุกจังหวัดยกเว้น จ.สุพรรณบุรีเพียงจังหวัดเดียว

พบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 20,515 ราย แบ่งไปติดเชื้อภายในประเทศ 20,515 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย และจากเรือนจำหรือสถานที่ต้องขัง 248 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 968,957 ราย หายป่วยแล้วเพิ่มขึ้น 22,682 ราย ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ และหายป่วยสะสม 753,119 ราย ขณะที่รักษาตัวอยู่ 207,553 ราย แบ่งเป็นรักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก 51,551 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 156,002 ราย อาการหนัก 5,615 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,172 ราย มีเสียชีวิตเพิ่มสูงถึง 312ราย รวมเสียชีวิตสะสม 8,258 ราย

ขณะที่ ผลบวกจากการตรวจ Antigen Rapid Test Kit ทั่วประเทศ ข้อมูลวันที่ 17 สิงหาคม 2564 พบติดเชื้อ 7,210 ราย โดยต้องรอการตรวจยืนยันด้วย RT-PCR ซึ่งกรุงเทพฯ ยังเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

ขณะที่ รายงานการเข้ารับการฉีดวัคซีนสะสม 24,618,749 โดส ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 สะสมจำนวน 18,726,405 คน ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สะสมจำนวน 5,381,676 คน และฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สะสมจำนวน 510,668 คน

ด้านผู้เสียชีวิตจำนวน 312 ราย แบ่งเป็นชาย 174 ราย หญิง 138 ราย สัญชาติไทย 305 ราย เมียนมา 5 ราย กัมพูชา 5 ราย และอังกฤษ 1 ราย โดยมีค่ากลาง อายุ 65 ปี ระหว่าง 28-102 ปี แบ่งเป็นผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปเสียชีวิต 194 ราย อายุต่ำกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรังเสียชีวิต 71 รายและไม่มีโรคเรื้อรังเสียชีวิต 41 รายโดยมี 3 ราย ที่ จ.ลพบุรี

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube