ศบค. พบคลัสเตอร์งานศพ ตลาด สถานีขนส่ง จี้เข้มมาตรการ รับจำเป็นต้องปรับเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. ระบุว่า มีข้อมูลที่พบว่าแหล่งที่เกิดการติดโควิด-19 มีหลายจังหวัด ซึ่งมาจากงานศพ โดยอยู่ในเขตภาคอีสานก็ได้รับรายงานเช่นเดียวกัน โดยงานศพมีการนั่งรับประทานอาหาร ถอดหน้ากากอนามัย อยู่ใกล้ชิดกัน และใช้เวลากันพอสมควร ซึ่งจะมีการเลี้ยงอาหารเย็น หรือการพูดคุย อยู่เฝ้าศพค้างคืน ระยะเวลาของคนที่ไม่ได้พบกัน ก็มาพบกันจำนวนมากจึงกลายเป็นกิจกรรมเสี่ยงขึ้นมา บางที่มีการจัดอีเวนท์ การส่งเสริมการขายในห้างสรรพสินค้าเพราะหลายที่มีการผ่อนคลายสามารถจัดกิจกรรมได้ แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ควร ส่วนตลาดก็มีรายงานเข้ามาเป็นระยะ และมีการกระจายไปในหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด ร้านอาหารก็มีการติด เพราะมีการนั่งกิน นั่งดื่ม หลังจากเปิดให้ทำได้ สถานีขนส่ง โรงเรียนก็มีติดเชื้อเช่นกัน ดังนั้นในส่วนนี้ต้องช่วยกันลด และใช้มาตรการจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. เพื่อที่จะดูต่อว่าเดือน ต.ค. จะมีมาตรการต่างๆเพิ่มเติมอย่างไร
ทั้งนี้นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า ถึงกรณีที่คณะแพทย์ออกมาระบุข้อกังวลในการผ่อนคลายมาตรการ ว่า ทางศปก.ศบค.จำเป็นต้องปรับมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยมีการออกมาตรการและประกาศมาตรการออกไปแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงข้อห่วงใยของประชาชน ที่พูดถึงเป็นเสียงเดียวกันจะเห็นได้อย่าง เช่น ห้างสรรพสินค้าที่มีความหนาแน่น รถติด และพื้นที่ตลาดสด ซึ่งมีชุดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในหลายเรื่อง และตนก็รู้สึกไม่สบายใจ พร้อมกับยังระบุอีกว่า เดี๋ยวก็จะมีคนไปพาดหัวข่าวว่าโทษประชาชนอีกแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่ามีข้อตกลงร่วมกันเป็นเป้าหมายเดียวกันเพื่อคงสภาพการใช้วิถีชีวิตในช่วงที่มีโรคระบาดแบบ Smart Control and Living at covid 19 เช่นเดียวกับในต่างประเทศ ซึ่งมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนเมื่อเห็นว่าเสี่ยงก็อย่าเข้าไป หรือสถานที่นั้นเสี่ยงก็อย่าเข้าไป โดยให้คิดเสมอว่าทุกคนนั้นมีโอกาสติดโรคเสี่ยงได้ พร้อมขอประชาชนอย่าเพิ่งสบายใจและต้องขอความร่วมมือ รวมถึงรู้จักปรับตัวในการใช้ชีวิตหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้มาปีกว่า โดยในช่วงท้ายนายแพทย์ทวีศิลป์ ย้ำอีกว่า ขอประชาชนการ์ดอย่าตก
ศบค.พบป่วยใหม่ 12,583 ราย สะสม1,394,756 ราย เสียชีวิตอีก 132 รักษาหาย16,304 ราย ฉีดวัคซีนแล้ว 40.27 ล้านโดส
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานตัวเลขสถานการณ์ประจำวันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 29 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,583 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 12,420 ราย ผู้ป่วยในเรือนจำ 163 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 1,394,756 ราย รักษาอยู่ 132,113 ราย รักษาในโรงพยาบาล 38,046 ราย และโรงพยาบาลสนาม 94,067 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,096 ราย และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 835 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 124,815 ราย หายเพิ่ม 16,304 ราย เสียชีวิตใหม่ 132 ราย รวมเสียชีวิต 14,485 คน
โดยผู้เสียชีวิตรายใหม่เป็นผู้ป่วยชาย 63 ราย ผู้ป่วยหญิง 69 ราย เป็นชาวไทย 129 ราย, เมียนมา 2 รายและญี่ปุ่น 1 ราย พบมีปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อในพื้นที่128 ราย, ติดจากคนรู้จัก 54 ราย, ติดจากครอบครัว 11 ราย, แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 23 ราย, ปริมณฑล 52 ราย, ภาคเหนือ 12 ราย,ภาคใต้ 10 ราย ภาคอีสาน 13 ราย และภาคตะวันออก 22 ราย
ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 12,409 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 11 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุก/โรงงานและในชุมชน 11,232 ราย ค้นหาเชิงรุกในเรือนจำ 163 ราย และเข้าระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,177 ราย
ด้านยอดการฉีดวัคซีนในประเทศไทยรวม 40,276,365 โดส สะสมแบ่งเป็นฉีดวัคซีนเข็มแรก 27,303,700 ราย เพิ่มขึ้น 109,213 ราย เข็มที่สองจำนวน 12,357,581 ราย เพิ่มขึ้น 106,570 ราย และเข็มที่สามสะสมจำนวน 615,075 ราย เพิ่มขึ้น 106 ราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
