คลัสเตอร์ใหม่! แคมป์ก่อสร้างย่านสายไหม พบติดเชื้อร่วม 40 คน แยกตัวส่งรักษาแล้ว – “เพจสายไหมต้องรอด” วอนหน่วยงานรัฐขอ ATK ตรวจเชิงรุกประชาชน
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. โดยระบุว่า ทางเพจสายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งการตรวจพบ ผู้ติดเชื้อโควิด -19 ในแคมป์คนงานก่อสร้าง ในลักษณะเป็นคลัสเตอร์ พื้นที่ สายไหม ในซอยวัชรพล 4 เบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อ 36 ราย ส่วนมากเป็น ต่างด้าวเกือบทั้งหมด โดยแคมป์คนงานก่อสร้างจุดดังกล่าว เป็นแคมป์ขนาดใหญ่ มีคนงานกว่า 100 คน ซึ่งแคมป์ดังกล่าวได้ทำมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้ แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา พบคนงานมีอาการป่วย และมีไข้สูง จึงทำการตรวจหาเชื้อโควิด ก็พบว่าติดเชื้อ จึงทำการตรวจหาเชื้อคนงานในรายอื่น ก็พบว่าติดเชื้ออีก 36 ราย ตอนแรกทางแคมป์ก่อสร้าง จะให้รักษาตัวกันในแคมป์คนงาน แต่เกรงว่าอาจจะแพร่เชื้อไปยังคนงานรายอื่น จึงต้องแยกตัว คนงานที่ติดเชื้อโควิดออกมาก่อน และประสานเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ
จากนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เขตสายไหม ทราบเรื่องจึงประสาน รพ.เครือธนบุรี รับตัวคนงานที่ติดเชื้อทั้งหมด เข้ารับการรักษา ขณะเดียวกันจะต้อง ทำการตรวจหาเชื้อเชิงรุกคนงานก่อสร้างทั้งหมด เพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อ ออกจากผู้ไม่ติดเชื้อ และเฝ้าระวังสังเกตอาการตามมาตรการป้องกันโควิด
นายเอกภพ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของพื้นที่เขตสายไหมนั้น การตรวจหาเชื้อเชิงรุกค่อนข้างเข้มแข็ง ตอนนี้ แม้สถานการณ์ของผู้ป่วยวิกฤตลดลง แต่จำนวนผู้ป่วยโควิดเองไม่ได้ลดลง เพราะในแต่ละวัน ทางเพจสายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งพบผู้ป่วยติดเชื้อทุกวัน บางวันสูงเกือบ 100 คน และบางวัน มีสูงถึงกว่า 100 ราย หลังจากทางทีมงานได้รับแจ้ง ก็จะเข้าไปสอบถาม หากผู้ป่วยติดเชื้อได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ก็จะแนะนำให้เข้าสู่ระบบพักรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation แต่หากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และอาการค่อนข้างหนัก ก็จะประสานส่งต่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่โรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม เพจสายไหมต้องรอด ฝากเรียกร้องไปยังหน่วยงานภาครัฐ ขอชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) มาให้กับทางเพจบ้าง เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ขอให้ไปตรวจคัดกรองเบื้องต้น ในกลุ่มผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยง ทำให้ชุดตรวจ ATK ที่มีอยู่ขณะนี้ ก็ใกล้หมดแล้ว และที่ผ่านมาก็ทำการดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
