Home
|
ทั่วไป

“หมอธีระวัฒน์”แนะฉีดเชื้อตายให้เด็กก่อนตามด้วยmRNA

Featured Image
“หมอธีระวัฒน์” ยังห่วงหัวใจผิดปกติในเด็กหลังฉีดไฟเซอร์ แนะทางออกปลอดภัยสูงสุด 3 ขวบขึ้นไปอาจเป็นเชื้อตาย 2 เข็มก่อน ตามด้วยmRNAในปริมาณน้อยที่สุด

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก เรื่อง
หัวใจผิดปกติในเด็กชาย หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (162.2 คน ใน 1 ล้านคน)

การวิเคราะห์ข้อมูล โดย คุณหมอ Tracy Hoeg และคณะ จาก university of California, Davis ภาควิชา Physical Medicine and Rehabilitation ทั้งนี้ โดยใช้ข้อมูลที่มีการรายงานมาในระบบ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากวัคซีน ของชาติ (VAERS) โดยใช้ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 18 มิถุนายน 2564 เด็กอายุ 12 ถึง 17 ปี ที่ไม่มีโรคประจำตัวที่ได้รับวัคซีน mRNA ที่มีอาการและลักษณะเข้าได้กับกล้ามเนื้อหัวใจและเยี่อหุ้มหัวใจอักเสบ

-เด็กผู้ชายอายุ 12 ถึง 15 เกิดหัวใจอักเสบ 162.2 ต่อล้าน
-เด็กผู้ชายอายุ 16 ถึง 17= 94 ต่อล้าน
-เด็กผู้หญิงอายุ 12 ถึง 15 เกิดหัวใจอักเสบ 13.0 ต่อล้าน
-เด็กผู้หญิงอายุ 16 ถึง 17= 13.4 ต่อล้าน

ในจำนวนนี้ ซึ่งเกือบ 86% เป็นเด็กชาย ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและความเสี่ยงตามการวิเคราะห์ชิ้นนี้ดูจะสูงมากกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากการติดเชื้อ โควิด-19 ในกลุ่มอายุขนาดนี้ที่ไม่มีโรคประจำตัว ข้อมูลตรงกับที่ CDC สหรัฐ รายงาน คือ มักเกิดหลังเข็มที่สองในผู้ชายอายุ 12 ถึง 17 แต่ อุบัติการจากการวิเคราะห์นี้สูงกว่า ที่ได้เคยมีรายงานไว้คือที่ 62.5 ในผู้ชายและ 8.68 ในผู้หญิงที่อายุ 12 ถึง 17 ต่อ ล้าน

(ทั้งนี้ ไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเกิดเนื่องจากการระบุว่าเป็นหัวใจอักเสบมีการครอบคลุมลักษณะของอาการกว้างขวางกว่า รวมกระทั่งถึงการตรวจอื่นๆ เข้าไปด้วยหรือไม่)

ทางเลือกสำหรับประเทศไทยในเด็กตั้งแต่อายุ 3 ขวบขึ้นไป เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจากหัวใจอักเสบ อาจจะเป็นวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม แต่เนื่องจากไม่สามารถคุมเดลต้าได้จึงตามด้วยไฟเซอร์ หรือโมเดนา ในปริมาณน้อยที่สุดคือหนึ่งส่วนสี่โดส เข้ากล้าม ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลหรือจะใช้ขนาดหนึ่งในห้าหรือหนึ่งใน 10 ทางชั้นผิวหนังก็ได้ผลเช่นกันและปลอดภัยกว่า

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube