“ศรีสุวรรณ”ชี้อ่างลำเชียงไกรชำรุด เป็นความประมาทร้ายแรง ไม่สามารถอ้างเป็นเหตุสุดวิสัย ต้องมีผู้รับผิดชอบ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักรัฐธรรมนูญไทยและนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ระบุ ตามที่สื่อโซเชียลส่งข้อความประกาศเตือนว่าอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรแตก ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท้ายอ่างเร่งขนของขึ้นที่สูง แต่ต่อมากรมชลประทานได้ออกมาแก้ข่าวว่าอ่างลำเชียงไกรไม่ได้แตกเพียงแต่จุดที่เกิดปัญหานั้น เป็นจุดที่มีการก่อสร้างซึ่งยังเป็นส่วนที่ก่อสร้างยังไม่เสร็จ ทำให้น้ำกัดเซาะทำนบดินจนน้ำล้นออกมาเท่านั้น
กรณีที่เกิดขึ้นไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะหน่วยงานราชการต้องรู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า วันที่ 25-26 ก.ย.จะมีพายุดีเปรสชันเตี้ยนหมู่พัดผ่านพื้นที่หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ดังนั้น กิจกรรมการก่อสร้างอาคารและทางระบายน้ำของอ่างดังกล่าว ซึ่งมีปริมาณน้ำเหนืออ่างมากกว่า 41.69 ล้าน ลบ.ม.หรือกว่า 150% ต้องรีบเตรียมการเสริมทำนบดินบริเวณไซด์ก่อสร้างมารองรับ ก่อนที่พายุจะมา แต่กรมชลประทานไม่ได้สั่งให้ผู้รับเหมาเตรียมการดังกล่าวไว้ดังนั้นเมื่อเกิดน้ำล้นจนทำให้ทำนบดินที่ทำไว้รอบสปริลเวย์(Spillway) ถูกกัดเซาะจนพังทลายแทบทั้งหมด จึงถือเป็นความประมาทอย่างร้ายแรง ตามมาตรา420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกอบมาตรา 8 วรรคหนึ่ง แห่ง พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
ด้วยเหตุดังกล่าว ประชาชนที่อยู่ท้ายอ่างลำเชียงไกร(ตอนล่าง) ที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากน้ำท่วมมีผลมาจากน้ำทะลักจากอ่างลำเชียงไกร(ตอนล่าง)สามารถเรียกร้องขอค่าชดเชยหรือค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เป็นจริงทั้งหมดได้จากกรมชลประทานได้ โดยหลังจากที่น้ำหายท่วมแล้ว สามารถทำหนังสือหรือแจ้งความจำนงค์ไปที่กรมชลประทานโดยตรงหรือแจ้งผ่านตัวแทนหน่วยงานราชการในท้องที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน, กำนัน, อบต. , นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดภายใน 90 วันตั้งแต่รู้ว่าทรัพย์สินเสียหาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news