ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.ยะลา-ปัตตานี ติดตามสถานการณ์โควิด-19 หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น กำชับคุมเข้มมาตรการ ป้องกันควบคุมโรค
วันนี้ (5 ตุลาคม 2564) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดยะลาและปัตตานี ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น และมาตรการควบคุมโรค
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในเขตสุขภาพที่ 12 โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 – 2,000 รายต่อวัน ซึ่งสวนทางกับผู้ติดเชื้อในประเทศที่เริ่มลดลง มีสาเหตุหลักจากการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม โดยได้เน้นย้ำให้พื้นที่ดังกล่าวเตรียมมาตรการควบคุมโรคที่ชัดเจน ทั้งมาตรการส่วนบุคคล สื่อสารให้ประชาชนป้องกันตนเอง และมาตรการสังคมโดยใช้กลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงให้มีความครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีการส่งยาและเวชภัณฑ์ไปแล้ว ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ 1,000,000 เม็ด, ชุดตรวจ ATK 20,000 ชุด, Oxygen concentrator 100 เครื่อง, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 25,000 โดส และวัคซีนไฟเซอร์ 100,000 โดส
ด้านนายแพทย์สุเทพ กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าหมายควบคุมสถานการณ์ให้ได้ภายใน 1- 2 เดือน โดยลดจำนวนผู้ติดเชื้อประมาณ 10% ต่อสัปดาห์ ส่วนการเตรียมรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ จังหวัดยะลา มีเตียงรองรับในโรงพยาบาลรัฐ 9 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง รวม 1,162 เตียง เป็นเตียงผู้ป่วยสีแดง 86 เตียง และผู้ป่วยสีเหลือง 1,076 เตียง มีโรงพยาบาลสนามแล้ว 9 แห่ง รวม 2,385 เตียง ส่วนจังหวัดปัตตานี มีเตียงผู้ป่วยโควิด 19 รวม 4,100 เตียง โรงพยาบาลชุมชน 647 เตียง โรงพยาบาลทั่วไป 216 เตียง ฮอสพิเทล 3 แห่ง 557 เตียง โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง 58 เตียง โรงพยาบาลทหาร 1 แห่ง 10 เตียง และโรงพยาบาลสนามอำเภอ 2,612 เตียง
ทั้งนี้ ยังมีการยกระดับโรงพยาบาลสนามให้สามารถดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและให้ออกซิเจนได้แล้วเช่นเดียวกับโรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งขณะนี้ใช้เตียงผู้ป่วยกลุ่มสีแดงไปแล้ว 80% สีเหลืองและเขียว 70-80% และคาดว่ายังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news