โฆษกทร. แจงเหตุเครื่องผลักดันน้ำกองทัพเรือจมที่สมุทรปราการ เผยเครื่องพ่นน้ำรั่วระหว่างเดินเครื่องผลักดันน้ำ ส่งผลให้น้ำไหลเข้าเรือเร็วและระบายไม่ทัน เร่งกู้วันนี้ คาดไร้อุปสรรค
พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดเหตุการณ์เครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรือจมบริเวณคลองสำโรง ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ขณะกำลังดำเนินการผลักดันน้ำในคลองสู่ทะเล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากเครื่องพ่นน้ำรั่วระหว่างเดินเครื่องผลักดันน้ำ ส่งผลให้น้ำไหลเข้าเรือเร็วและระบายไม่ทัน
ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลประจำพื้นที่ได้รีบนำ เครื่องสูบน้ำฉุกเฉิน ออกมาเร่งดำเนินการแก้ไข แต่เนื่องจากบริเวณที่ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเป็นจุดที่เข้าถึงยาก ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ซึ่งลักษณะการติดตั้งเรือจะผูกติดกันไว้เป็นคู่ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปลดตัวยึดล็อค ของเครื่องผลักดันน้ำอีกลำหนึ่งแต่ไม่ทันการณ์ ทำให้เครื่องผลักดันน้ำเครื่องที่สอง ถูกเครื่องแรกที่มีปัญหาดึงจมลงไปด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าสาเหตุการทำให้เรือจมเนื่องจาก มีเศษไม้ที่เป็นขยะแข็งเข้าไปทำให้ Water jet ขัดตัวเกิดการชำรุดแตกเสียหายน้ำเข้าเรือ ส่วนลำที่ 2 สาเหตุ เกิดจากการ การผูกยึดกับลำที่ 1 ดึงจมลง
พลเรือโท ปกครอง กล่าวต่อว่า ในส่วนของการกู้เครื่องผลักดันน้ำขึ้นมานั้น ทางชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำจะเร่งดำเนินการในวันนี้ ซึ่งการดำเนินการคาดว่าไม่มีอุปสรรคข้อขัดข้อง เนื่องจากระดับน้ำในคลองมีความลึกไม่เกิน 3 เมตร กระแสน้ำไม่ไหลเชี่ยว อีกทั้งเครื่องผลักดันน้ำมีน้ำหนักเพียง 4 ตัน สามารถใช้เครนยกขึ้นมาได้ จากนั้นจะนำไปดำเนินการซ่อมทำที่กรมอู่ทหารเรือซึ่งเป็นหน่วย วิทยาการในการซ่อมทำอยู่แล้ว นอกจากนั้น ระบบของเครื่องผลักดันน้ำ ไม่ใช่ระบบอิเล็กทรอนิกส์จึงสามารถดำเนินการซ่อมได้ไม่ยาก ทั้งนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จะเคลื่อนย้ายเครื่องผลักดันน้ำ 2 ลำไปทดแทน เพื่อให้คงประสิทธิภาพในการเร่งระบายน้ำเช่นเดิม
พลเรือโท ปกครอง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกองทัพเรือได้ส่งเรือผลักดันน้ำ เข้าดำเนินการเร่งผลักดันน้ำในพื้นที่ต่างๆจำนวน 58 ลำโดยได้เดินเครื่องตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน เป็นต้นมา โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 18.00 น. ของทุกวัน ทำให้อาจมีการสึกหรอและชำรุดของอุปกรณ์ แต่อย่างไรก็ตามทางชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำก็ได้มีการเตรียมอุปกรณ์ และ กำลังพลในการซ่อมทำให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามกองทัพเรือมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยทรัพยากรต่างๆของกองทัพเรือ เพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคม เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ “รวมใจภักดิ์ รักชาติ ราษฎร์ศรัทธา”
ผบ.ทร. แต่งตั้งทีมโฆษกกองทัพเรือชุดใหม่ มอบหมายแถลงเจตนารมณ์และนโยบายประจำปี 2565
พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งทีมโฆษกกองทัพเรือชุดใหม่ โดยมอบหมายให้พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นโฆษกกองทัพเรือ พล.ร.ต.อนุวัต ดาผิวดี เลขานุการกองทัพเรือ เป็นรองโฆษกกองทัพเรือ พล.ร.ต.อภิชาติ วรภมร ฝ่ายเสนาธิการประจำกองบัญชาการกองทัพเรือ เป็นรองโฆษกกองทัพเรือ น.อ.ปารัช รัตนไชยพันธ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ เป็นผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ และแพทย์จีน ปรียาดา บัวสมบุญ เป็น ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ
ทั้งนี้ พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือในปีนี้ เป็นการสานงานต่อเนื่องจากนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ผ่านมา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ตลอดจนรวมพลังขับเคลื่อนกองทัพเรือตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ 20 ปี ไปสู่การเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเล ที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการบริหารจัดการ และการส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคม และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น นำพากองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้า โดยเน้น ความสามัคคีปรองดองเป็นพี่เป็นน้อง ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ พร้อมย้ำผู้บังคับหน่วยต้องดูแลหน่วยและดูแลสวัสดิการกำลังพลชั้นผู้น้อย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ “รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา”
ส่วนนโยบายเร่งด่วนและสำคัญที่สุดที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กำชับให้กับหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือได้แก่ 1.การพิทักษ์รักษา ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มขีดความสามารถตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานในการดำเนินโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” 2.การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ การพัฒนาประเทศ การบรรเทาภัยพิบัติและการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทกภัยที่กำลังจะเกิดในขณะนี้ และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 3.การดูแลขวัญกำลังใจของกำลังพลกองทัพเรือ โดยเฉพาะกำลังพลชั้นผู้น้อยไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การปรับปรุงที่พักอาศัย การสวัสดิการ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
โฆษกทร. ยัน “เรือดำน้ำ” ยังมีตามยุทธศาสตร์ชาติ ยินดีปฏิบัติตามรบ.สั่งการ คำนึงถึงปชช.เป็นหลัก หลังโควิด-19 พ่นพิษ
พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือกล่าวถึงการเดินหน้าเรื่องเรือดำน้ำ ว่า สิ่งที่กองทัพเรือประสบมาตลอดคือยุทธศาตร์กองทัพเรือที่กำหนดมีเรือดำน้ำเป็นยุทธศาสตร์ของชาติ โดยผู้บัญชาการทหารเรือ มอบนโยบายว่าเรื่องเรือดำน้ำยังเป็นยุทธศาตร์กองทัพเรือ แต่สิ่งสำคัญคือความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะการใช้เงินภาษีประชาชน ดังนั้นเรื่องนี้เราต้องวิเคราะห์และคิดให้ดี ทางกองทัพเรือยินดีปฏิบัติตามที่รัฐบาลสั่งการมา โดยแผนการจัดซื้อเรือดำน้ำเรายังมีอยู่ แต่จะเลื่อนหรือปรับแผนอย่างไรยังไม่สามารถได้ แต่ยืนยันว่าเราต้องร่วมกันแก้วิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยที่ผ่านมาได้พูดคุยกับทางจีนมาตลอดและเขาก็เข้าใจเรา ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news