รมว.ดีอีเอส มั่นใจโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกประสบความสำเร็จ สามารถขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อก หลังจากรับฟังรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่ทำให้มั่นใจว่าเราเดินมาถูกทางแล้วจากตัวเลขและข้อมูลต่างๆที่ได้รับก็ยืนยัน ภูเก็ตแซนด์บ็อกเดินหน้าได้อย่างดี ในระยะต่อไปสามารถต่อโครงการฯนี้ไปยังพื้นที่อื่นได้ โดยจะขยายผลไปยังจังหวัดข้างเคียงคือ จังหวัดพังงา และกระบี่ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ไปใช้ติดตามตัวนักท่องเที่ยวและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเราสามารถเปิดประเทศได้ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยกล่าวไว้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ขอให้คนไทยทุกคนเชื่อมั่น
ในส่วนของมาตรการบางอย่างที่ยังไม่เหมาะสม มีข้อจำกัด และเป็นภาระกับนักท่องเที่ยวนั้น มองว่ายังต้องใช้มาตรการควบคุมการเดินทางอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อของโรค ก็จะลดภาระของนักท่องเที่ยวได้
ทั้งนี้ ในระยะต่อไปต้องมีการผ่อนปรนมาตรการนี้ซึ่งจะต้องมีการหารือต่อไปถึงแผนการผ่อนปรนมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้ดีขึ้น ที่สำคัญกรณีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตแบบ RT-PCR มีค่าใช้จ่ายในการตรวจค่อนข้างสูงครั้งละ 2,600 บาทต่อครั้ง ค่าประกันสุขภาพอีก ถือเป็นภาระของนักท่องเที่ยว มองว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำการตรวจแบบ ATK มาใช้แทน เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและมีราคาถูกอยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส จะนำเสนอมาตรการนี้ไปยัง ศบค. ต่อไป และอีกเรื่องถ้าเราขยายพื้นที่ท่องเที่ยวไปหลายจังหวัดมากขึ้น อยากให้แต่ละจังหวัดมีการเชื่อมโยงข้อมูลและมาตรการให้เป็นเนื้อเดียวกัน รวมถึง ทุกเเพลตฟอร์ม เป็น One Country One Platform One application ควรมีการบริหารจัดการที่ศูนย์รวมที่เดียว นี่เป็นเรื่องที่ต้องผลักดันต่อไปโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลทุกจังหวัดให้เป็นเนื้อเดียวกันให้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news