จุรินทร์ ประกาศ ยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง 64-67 ให้ประเทศไทย เป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลก ด้านการผลิตและการค้ามันคุณภาพต่อเนื่อง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะ ร่วมการประชุมหารือร่วมกับระหว่างหอการค้าจังหวัดสมาคม ท่องเที่ยวจังหวัด กลุ่มเครือข่ายภาคธุรกิจ (Biz club) จังหวัด นครราชสีมา และทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมาและแถลงยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง ปี 2564 -2567 พร้อมมอบ GI ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่
โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมหารือระหว่างทีมท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมาและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสมาคมที่เกี่ยวกับมันสำปะหลัง โดยที่ประชุมมีมาตรการ 3 ด้าน ช่วยขับเคลื่อน คือ
1.ด้านการผลิตประกอบด้วย 4 มาตรการ
1)การพัฒนาพันธุ์ เพื่อนำไปสู่พันธุ์ต้านทานโรคใบด่าง เชื้อแป้งสูงและผลผลิตต่อไร่สูง
2)ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ จากปัจจุบันประมาณ 3.6 ตันต่อไร่ เป็นไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่ในปี 67
3)พัฒนาคุณภาพมันสำปะหลังไทยตามความต้องการของตลาดโดยใช้ “ตลาดนำการผลิต”
4)สร้างกลุ่มและรวมกลุ่ม เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศผู้ซื้อ
2.ด้านตลาดในประเทศ
1)จะรักษาสมดุลด้านเสถียรภาพของราคาสำหรับตลาดในประเทศ
2)ส่งเสริมการขายมันสำปะหลังหรือผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังผ่านช่องทางตลาดที่มีความหลากหลาย
3)ส่งเสริมการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
3.ด้านตลาดต่างประเทศหรือการส่งออก
1)จะขยายตลาดการส่งออกมันสำปะหลังไทยไปหลากหลายประเทศมากขึ้นแทนที่จะพึ่งพาตลาดจีนเพียงอย่างเดียว
2)ส่งเสริมการส่งออกสินค้ามูลค่าเพิ่ม จากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังด้วยการแปรรูปและใช้นวัตกรรมมากขึ้น
3)เพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้า เช่น การรวมกลุ่มประเทศผู้ผลิต ผู้ส่งออกทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมอำนาจการต่อรองกับผู้ซื้อ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้สาธารณสุขจ.นครราชสีมา ประสานงานกับองค์การเภสัชกรรม ให้ผู้ประกอบการและเจ้าของโรงงานในจังหวัดนครราชสีมา ซื้อ ATK ในราคาชิ้นละ 40 บาท ขององค์การเภสัชกรรมจำนวน 200,000 ชิ้นเพื่อใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในภาคการผลิตของจังหวัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news