อธิบดีกรมอนามัย ย้ำ ปชช. การ์ดอย่าตก ขอปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเคร่งครัด
วันนี้ (3 พ.ย. 64) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงประเด็น เปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศด้วย UP และ COVID Free Setting ผ่าน Facebook Live กระทรวงสาธารณสุข ว่า จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข เน้นหลักสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การฉีดวัคซีนครอบคลุมได้ตามเป้าหมาย, การป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention), การเข้มมาตรการ COVID-free setting ในสถานประกอบกิจการกิจกรรม และ การตรวจหาเชื้อเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK
สำหรับผลการปฏิบัติตนตามหลักการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ระหว่าง 1-31 ต.ค. 64เปรียบเทียบพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัดท่องเที่ยว และพื้นที่อื่น ๆ ใน 60 จังหวัด พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อไปที่สาธารณะ ร้อยละ 96.7 และ 97.1 ส่วนการสวมหน้ากากเมื่ออยู่กับผู้อื่นในบ้าน เพียงร้อยละ 53.9 และ 60.7 เท่านั้น
ข้อมูลจากการสังเกตจากผู้ใช้บริการตลาด พื้นที่นำร่อง 17 จังหวัดท่องเที่ยว ระหว่าง 1-31 ต.ค. 64 พบว่า มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค โดยพบประชาชนสวมหน้ากากถูกต้อง ร้อยละ 79.7 และมีประชาชนที่สาวหน้ากากไม่ถูกต้องหรือไม่สวมหน้ากาก ร้อยละ 20.3 แต่ยังต้องปรับปรุงเรื่องของการทำความสะอาดห้องสุขาให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค และการติดใบประกาศ Thai Stop COVID ส่วนข้อมูลจากการสังเกตสถานที่ท่องเที่ยวในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภาพรวมแล้วยังไม่ดำเนินการตามมาตรการเข้มข้นเท่าที่ควร ซึ่งมีการดำเนินการเข้มข้นน้อยกว่าตลาดอยู่มาก
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถประเมินสถานประกอบการตามมาตรการ COVID-free setting โดยสแกน QR Code ใน E-Certificate ของสถานประกอบการที่ไปใช้บริการ หรือผ่านทางเว็บไซต์ Thai Stop COVID Plus ของกรมอนามัย หรือผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ผู้พิทักษ์อนามัย”
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า กรมอนามัยเน้นย้ำให้ทุกคนการ์ดไม่ตก โดยปฏิบัติตามมาตรการ UP (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งขอให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาในการประเมิน แนะนำ ติชม และร้องเรียน สถานประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID-free setting ตามช่องทางที่กำหนดข้างต้น เพื่อให้การเปิดประเทศเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศ ประชาชนสามารถใช้ชีวิตและท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ร้านอาหารส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อาจมีบางส่วนที่อาจหย่อนยานในการปฏิบัติอยู่บ้าง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการแนะนำและตักเตือนไปแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงบางประการที่พบในเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กำหนด มีการเว้นระยะห่างลดน้อยลง ทั้งนี้ ยังเชื่อว่าในอีกระยะหนึ่งประชาชนและสถานประกอบการจะสามารถปรับตัวได้ โดยสาธารณสุขจะเฝ้าระวังและสุ่มตรวจสอบเป็นระยะ เพื่อประเมินว่าการดำเนินการของร้านอาหารต่าง ๆ มีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news