Home
|
ทั่วไป

สธ. เผย ฉีดเข็ม 3 Pfizer-Moderna ห่าง AZ 6 เดือน

Featured Image
อธิบดีกรมควบคุมโรค เผย ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 Pfizer-Moderna หลังรับ AstraZeneca 2 เข็ม 6 เดือน

วันนี้ (5 พ.ย. 64) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยประเด็นสูตรการฉีดวัคซีนโควิด-19 แนะนำโดยคกก.สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและการจัดการคลัสเตอร์โรงเรียนใน จ.มุกดาหาร ผ่าน Facebook Live กระทรวงสาธารณสุข ว่า ผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำวันนี้ เพิ่มขึ้น 824,650 โดส ผู้รับวัคซีนเข็ม 1 จำนวน 43,403,391 โดส คิดเป็นร้อยละ 60.3 เข็ม 2 จำนวน 32,726,021 โดส คิดเป็นร้อยละ 45.4 เข็ม 3 จำนวน 2,526,712 โดส คิดเป็นร้อยละ 3.5

นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มภาพรวมการติดเชื้อทั้งประเทศค่อนข้างลดลงอย่างช้าๆ โดยมีการศึกษาประสิทธิผลวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อ (Vaccine effectiveness: VE) ศึกษาจากฐานข้อมูลห้องปฏิบัติการ สปคม. ของผู้รับบริการพื้นที่ กทม. และ MOPH IC พบว่าวัคซีนหลักทั้ง 2 สูตร ได้แก่ วัคซีนสูตร AZ + AZ ป้องกันการติดเชื้อ 54% และวัคซีนสูตร SV + AZ ป้องกันการติดเชื้อ 70%

สำหรับมติการประชุมคณะอนุกรรมการการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคครั้งที่ 8/2554 เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา มีมติให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข้าผิวหนัง (ID) เฉพาะกรณีที่มีปริมาณวัคซีนจำกัด สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมกับวัคซีนโควิด-19 ได้ สำหรับผู้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็ม สามารถรับวัคซีนกระตุ้น เข็ม 3 ด้วย Pfizer หรือ Moderna หลังจากรับวัคซีนเข็ม 2 แล้ว 6 เดือนขึ้นไป หรือภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า การฉีดวัคซีน moderna จากบริษัทผู้ผลิตเดียวกัน ระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์ และต้องมีอายุ 12 ปีขึ้นไป สำหรับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ (Sinovac+Moderna/ AstraZeneca+Moderna/ Sinopharm+Moderna/ Pfizer+Moderna)ระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์

สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Sinovac+Sinovac/ Sinopharm+Sinopharm) สามารถกระตุ้นด้วย Moderna ระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์ขึ้นไป และ (AstraZeneca+ AstraZeneca) สามารถกระตุ้นด้วย Moderna ระยะห่างระหว่างเข็ม 6 เดือน โดยเว้นระยะห่างเช่นเดียวกับ Pfizer ทั้งนี้ หากประชาชนมีความประสงค์ที่จะรับวัคซีนเข็ม 3 บูสเตอร์ สามารถติดต่อไปยังสถานที่ฉีดวัคซีนเดิม

สำหรับผู้รับวัคซีน Sinopharm ครบ 2 เข็ม จะได้รับการกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย AstraZeneca โดยต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อีกครั้ง คาดว่าน่าจะเริ่มฉีดตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

ส่วนกรณีคลัสเตอร์โรงเรียน จ.มุกดาหาร กระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามข้อมูล เบื้องต้นพบว่าชุดตรวจ ATK ที่โรงเรียนทำการจัดซื้อคือยี่ห้อ Dvot (SARS-CoV-2 Antigen Test Kit) คาดว่าเกิด False Positive ซึ่งทางจังหวัดจะทำการหาสาเหตุในการเกิด Error Test ครั้งนี้ต่อไป ทั้งนี้ สรุปผลการตรวจ RT-PCR ไม่พบการติดเชื้อทุกราย โดยขณะนี้มีการดำเนินการทำความสะอาดภายในโรงเรียน และให้เฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 7 วัน เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube