นักวิชาการเผย“พืชกระท่อม ก้านแดง” มีสรรพคุณทางยาสูงต่อทางธุรกิจ เตือนใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
หลังจากที่รัฐบาลประกาศปลดล็อกพืช “กระท่อม” ออกจากยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 สู่พืชเศรษฐกิจที่ไม่ผิดกฎหมาย ได้สร้างกระแสความสนใจให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทั้งในฝั่งของผู้ผลิตและผู้บริโภค ทำให้ตลาดซื้อขายในไทยคึกคัก ทั้งบนช่องทางออนไลน์ และการตั้งหน้าร้านวางขายอย่างจริงจัง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่น่าจับตามอง “ปัจจุบันตลาดกระท่อมที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านและมีผู้บริโภคมากถึง 15 ล้านคน และในเอเชียเอง ประเทศอินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการส่งออกกระท่อมเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก มีมูลค่าทางการตลาดรวมอยู่ที่ 6,100-10,000 ล้านบาท”
บริษัท เมอร์ค ประเทศไทย ผู้ดำเนินธุรกิจยา เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ทางนวัตกรรม ตอบรับกระแส ปลดล็อกกระท่อม ถูกกฎหมาย ขานรับกับนโยบายภาครัฐ ที่ส่งเสริมพืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ แต่การจะนำสารสกัดจาก กระท่อม ไปใช้ได้ ต้องมีการตรวจวิเคราะห์สารสำคัญให้ตรงตามมาตรฐาน เพื่อการนำสารสำคัญไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดโทษ จึงได้จัดงานสัมมนาออนไลน์ KRATOM COMPOUND ANALYSIS and the importance of reference material โดยนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพืชกระท่อม ผู้คร่ำหวอดในวงการพืชกระท่อมมานานกว่า 10ปี แบ่งปันความรู้ตลอดจนวิธีการ วิเคราะห์ และการเลือกใช้สารมาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้องและแม่นยำที่สุด
รศ.ดร.จุไรทิพย์ หวังสินทวีกุล อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชเวทและเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้คร่ำหวอดในวงการวิจัยเกี่ยวกับ“พืชกระท่อม”เปิดเผยว่า กระท่อมนับเป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์อย่างมาก สรรพคุณทางยา มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลากหลาย เช่น ลดการเจ็บปวด ต้านการอักเสบ กระตุ้นประสาท โดยสารสกัดจากพืชใบกระท่อมที่สำคัญหลักๆ
คือ ไมทราไจนีน (Mitragynine) และ เซเว่นไฮดรอกซี่ไมทราไจนีน (7-hydroxymitragynine) ซึ่งเป็นกลุ่มสารที่สามารถไปนำใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ โดยเฉพาะกระท่อมสายพันธุ์ก้านแดง เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีสารไมทราไจนีน (Mitragynine)ในปริมาณใบมากที่สุด สามารถนำสารสำคัญมาใช้เป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมยา ทั้งตำรับยาแผนไทยและแผนปัจจุบัน และสามารถที่จะสร้างมูลค่าในทางเศรษฐกิจโดยต้องอาศัยฐานของวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งจะต้องดำเนินการตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด แม้กระท่อมเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์และสรรพคุณที่หลากหลาย แต่ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้และการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
นายจิรพันธ์ หล่อตระกูลชัย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สารมาตรฐานในห้องปฏิบัติการ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทย ที่ได้มีการปลดล็อกพืชกระท่อม ให้สามารถนำมาอุปโภคบริโภคได้เสรีมากขึ้น มีการซื้อขายใบกระท่อมสดอย่างกว้างขวางทั้งในท้องตลาดทั่วไป ร้านค้า หรือแม้แต่ตามช่องทางโซเชียลมีเดีย แต่เนื่องจากสารสำคัญที่ได้จากพืชกระท่อมมีข้อควรระวังในการบริโภค โดยเฉพาะปริมาณสารสำคัญที่ต้องควบคุมไม่ให้มีมากเกินไปจนเกิดผลเสีย โดยเฉพาะการแปรรูปเป็นผลิตอาหาร หรือ เครื่องดื่ม ยังจำเป็นต้องขออนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news