ผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่ตรวจน้ำหนุนเชิงสะพานซังฮี้ มอบถุงยังชีพและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแล 24 ชม. พร้อมช่วยประชาชนอย่างเต็มที่
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนเชิงสะพานกรุงธน(ซังฮี้) เขตบางพลัด พร้อมมอบถุงยังชีพและยาป้องกันน้ำกัดเท้าแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณถนนเจ้าพระยาสยาม หรือ ซอย จรัญสนิทวงศ์ 66/1 (วังพระองค์เจ้าพร้อม) จำนวน 40 ครัวเรือน พร้อมเปิดเผยว่า จากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ที่ระดับ 2.30 ม. ทำให้มีชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวทั้งสิ้น 6 จุด ในพื้นที่ 5 เขต ประกอบด้วย บางพลัด ยานนาวา สัมพันธวงศ์ คลองเตย และธนบุรี ซึ่ง กทม. ได้เรียงกระสอบทรายเพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วมพร้อมกันน้ำที่ผุดขึ้นจากท่อแล้ว พร้อมมอบถุงยังชีพและยาป้องกันน้ำกัดเท้าแก่ประชาชน เป็นการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระดมกำลังเพื่อดูแลประชาชนและกระสอบทรายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวตลอด 24 ชม.จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ จะนำรถสุขาเคลื่อนที่ จากสำนักสิ่งแวดล้อม รถยกจากสน.และหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือรถของประชาขนที่จมน้ำ รถไฟฟ้าส่องสว่างพร้อมเจ้าหน้าที่เตรียมจับสัตว์มีพิษจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การจัดประกอบอาหารและอาหารกล่องจากสำนักงานเขตพื้นที่ การเตรียมหาศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือประชาขนในพื้นที่ การประชาสัมพันธ์การหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรให้ประชาชนได้รับทราบ และเตรียมพร้อมการสำรวจความเสียหายโดยเร่งด่วนเพื่อเยียวยาตามหลักเกณฑ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย
สำหรับเหตุดังกล่าว เนื่องจากระดับน้ำขึ้นสูงสุดในแม่น้ำเจ้าพระยาเกือบ 2.40 เมตร จากเดิมที่ทาง กทม.เฝ้าติดตามระดับน้ำอย่างต่อเนื่องจะอยู่ที่ระดับ 1.90 เมตร และได้ทำการแจ้งเตือนระดับน้ำประจำวันตามปกติ แต่สถานการณ์นี้เกินกว่าการคาดการณ์ 25-40 ซม. เพราะเกิดจากลมที่ปะทะกันในบริเวณอ่าวไทยที่ดันให้ระดับน้ำสูงขึ้นจึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณริมน้ำระมัดระวังเตรียมยกของขึ้นที่สูง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news